ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม เปิดภารกิจส่งต่อความหอมฟุ้ง “ต้นสนสดคริสต์มาส” สู่ตัวแทนความรักหลากรูปแบบเพื่อสังคม ร่วมส่งต่อความสุขที่ไม่สิ้นสุด

 

บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน สร้างความสุขในทุกเทศกาล โดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่ผ่านมาที่นำพาสัญลักษณ์ความเป็นเฟสทีฟมาสู่คนไทยผ่าน “ต้นสนสดสายพันธุ์ Balsam Fir Plants” จากประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต้นสนสดที่หอมที่สุด โดยต้นสนดังกล่าวได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางสร้างความสุขให้คนในครอบครัว ใช้ประดับสถานที่ให้สวยงามต้อนรับผู้คนทั้งในและนอกอาคาร และยังเป็นการสร้างแรงกระตุ้นทางอ้อมให้คนที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาลได้หันมาใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบรายแรกของไทยด้านความยั่งยืน

 

นอกเหนือจากเป้าหมายการส่งต่อความสุขมาสู่คนไทย ไทวัสดุยังมีแคมเปญนำต้นสนสดสายพันธุ์ดังกล่าวมาสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม ผ่านแคมเปญสุดว้าว “ต้นสนสด ความสุขที่มีกลิ่นหอม” ที่นำหลัก 3R ทั้ง Reduce การลดใช้ทรัพยากร Reuse การใช้ซ้ำ และ Recycle การนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกิจกรรม นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นอย่างครอบคลุมทั้งกับกลุ่มผู้พิการทางสายตา กลุ่มเยาวชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าว้าวได้ตั้งแต่เริ่ม จนกระทั่งจบเทศกาลเลยทีเดียว

· กลิ่นต้นสนสดที่ไม่เลือนราง สู่การพัฒนาประสาทสัมผัสของผู้พิการทางสายตา

ด้วยความพิเศษของกลิ่นที่หอมและเป็นเอกลักษณ์ ต้นสนสดยังคงทำหน้าที่เป็นฑูตแห่งความสุขสำหรับผู้พิการทางสายตาได้เป็นอย่างดี โดยไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ได้มอบต้นสนสดให้กับกรุงเทพมหานคร จัดวางตกแต่งเป็นต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบความสุขให้กับประชาชนทั่วไปในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ยังเชิญน้องๆ ผู้พิการทางสายตาจากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ไปสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาส ผ่านการสัมผัสต้นสนจริง พร้อมปลุกเร้าประสาทสัมผัสด้วยกลิ่นหอมอันโดดเด่น เพื่อเสริมสร้างจินตนาการและการเรียนรู้ของน้องๆ อีกทั้ง ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ยังมอบรายได้จากการจำหน่ายต้นสนสด ต้นละ 50 บาท สมทบทุนบริจาคมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์อีกด้วย

· ลมหายใจที่สดชื่น บนพื้นที่สวนสนกลางเมือง

หลายปีที่ผ่านมา ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครได้ตื่นตัวกับเทรนด์การสร้างพื้นที่สีเขียวกลางกรุง เพื่อให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเพิ่มความมีชีวิตชีวาของเมืองให้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับ ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ที่ได้ร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพด้วยการมอบต้นสนสดกว่า 50 ต้น ให้กับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เนรมิตเป็นสวนสนกลางพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล จำนวน 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และเซ็นทรัลพระราม 3 สร้างบรรยากาศจำลองพื้นที่ป่าสนในประเทศแคนาดามาไว้กลางเมือง โดดเด่นด้วยสีเขียวที่ให้ความสบายตา และรูปทรงที่สวยเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับกลิ่นหอมอบอวลกระจายไปทั่วพื้นที่ อีกทั้งยังประดับพื้นที่ตกแต่งด้วยไฟและกล่องของขวัญอย่างสวยงาม เสริมสร้างจินตนาการให้กับน้องๆ และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการสัมผัสต้นสนสด เพลิดเพลินกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ รอต้อนรับและเชิญชวนทุกคนมาร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเติมเต็มความสุขสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ และทั้งครอบครัวในช่วงเทศกาลวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา

· พลังกิ่ง ก้าน ใบ สู่ “ปุ๋ย” สร้างการเติบใหญ่ของต้นไม้ ด้วยสูตรธรรมชาติ

ต้นสนสดของ ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ใช้เวลาปลูก - บ่มเพาะกว่า 1 ปีที่ประเทศแคนาดา เพื่อให้ได้ต้นสนโตขนาดพอเหมาะ มีรูปทรงสวยงาม กิ่งก้านแข็งแรง เหมาะสำหรับประดับตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งต้นสนสดเมื่อตัดมาทำเป็นต้นคริสต์มาสแล้วจะมีอายุประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ก่อนหมดสภาพ และร่วงโรยไป แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อชุบชีวิตให้ต้นสนสดกลับมามีคุณค่าอีกครั้ง ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ได้นำต้นสนสดที่หมดสภาพเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเพื่อนำไปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยต้นสนที่ผ่านกระบวนการแปรรูปเรียบร้อยแล้ว จะมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์สำหรับการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งในปีนี้ ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ได้มอบ “ต้นสนสดที่หมดสภาพ” จำนวน 200 ต้น ให้แก่วัดจากแดง ซึ่งเป็นวัดต้นแบบที่ริเริ่มโครงการจัดการขยะ ตั้งแต่ปี 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการทรัพยากรขยะไร้ค่ามาหมุนเวียนใช้ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อแก้ปัญหาขยะเหลือทิ้ง รวมทั้งสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่คนในชุมชนอีกทางหนึ่ง

นับเป็นการเฉลิมฉลองที่ไม่สิ้นสุดของ ไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ที่ต้องการให้ต้นสนสดสามารถสร้างประโยชน์ได้ในหลากหลายมิติ ทั้งสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม สร้างจินตนาการ รวมถึงสร้างประโยชน์คืนคุณค่าสู่สังคม ซึ่งเป็นการสานต่อเจตนารมณ์การดำเนินงานของ ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ที่มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,543 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565)