กรุงเทพฯ 23 มีนาคม 2566 - ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ดในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าตามยุทธศาสตร์เป็นองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผ่านโมเดลแบบใหม่ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) จับมือสตาร์ทอัพ Yindii (ยินดี) แอปพลิเคชันซื้อ-ขายอาหารส่วนเกินอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปลี่ยนอาหารส่วนเกินคุณภาพดีให้เป็น “Surprise Bags” ในราคาที่เข้าถึงได้ อีกหนึ่งภารกิจกอบกู้อาหารที่ดีต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม ส่งต่อเป็นมื้ออาหารที่มีคุณค่าราคาประหยัด เชื่อมโยงทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เมื่อเปิดกล่องผู้ซื้อจะรู้สึกเซอร์ไพรส์กับอาหารส่วนเกินที่ถูกคัดสรรจากท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท จำหน่ายในราคาที่ถูกลง 50 % อาทิ เบเกอรี่ ผัก ผลไม้สด อาหารแปรรูป อาหารพร้อมทาน ฯลฯ นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่เป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนด้านอาหารตลอดทั้งกระบวนการ ตามเจตนารมณ์ของ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกในประเทศไทย
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ท็อปส์ เบอร์ 1 ฟู้ด รีเทล ของไทย เรามีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งมอบประสบการณ์ด้านอาหารที่ดีที่สุดตามแนวคิด Every Day DISCOVERY ควบคู่ไปกับการเป็นองค์กรค้าปลีกสีเขียว ต้นแบบธุรกิจกลุ่มฟู้ดที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการลดปริมาณอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) การสูญเสียอาหาร (Food Loss) และขยะอาหาร (Food Waste) ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนอาหารส่วนเกินสู่อาหารที่มีคุณค่าส่งต่อไปยังครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนผู้สูงอายุ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศผ่านโครงการ “Food For Good Deed อาหารปันสุข” และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบริหารจัดการขยะและลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573 ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ท็อปส์ยังคงมองหาผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้าง ความยั่งยืนให้โลกใบนี้และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คน ล่าสุดร่วมมือกับสตาร์ทอัพน้องใหม่ Yindii (ยินดี) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสำหรับซื้อ-ขายอาหารส่วนเกิน (Food Waste) โดยเฉพาะ ร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่านโมเดลรูปแบบใหม่ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ซื้อขายอาหารส่วนเกินซึ่งไม่ได้หมายถึงอาหารเสียหรือหมดอายุ แต่เป็นอาหารส่วนเกินจากการดำเนินธุรกิจของท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ทที่สามารถรับประทานได้ จัดทำเป็น “Surprise Bag” จำหน่ายในราคาประหยัด ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญในการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อาหารที่ผู้บริโภคได้ซื้ออาหารที่ดีในราคาถูก อาหารไม่ถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม”
ด้าน นายหลุยส์-อัลบาน บาทาร์ด-ดูเปร, ประธานกรรมการบริหาร Yindii กล่าวว่า “อาหารส่วนเกินที่ถูกทิ้งเป็นขยะอาหารมีจำนวนมหาศาล จากการประเมินขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่า 1 ใน 3 ของอาหาร ถูกทิ้งเป็นขยะอาหารหรือประมาณ 1.6 พันล้านตันต่อปี ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ทั้งยอดค่าใช้จ่ายของสินค้าโกรเซอรี่ที่สูงขึ้น รวมถึงกระบวนการจัดการขยะอาหารก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 10% หนึ่งในสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน สำหรับ Yindii เป็นแอปพลิเคชันซื้อ-ขายอาหารส่วนเกินอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้ามาดำเนินภารกิจกอบกู้อาหารส่วนเกินคุณภาพดี ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงผู้ผลิต เช่น ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ และซูเปอร์มาร์เก็ต กับผู้บริโภคเข้าด้วยกัน รวมถึงสร้างทางเลือกที่ยั่งยืนที่สุดสำหรับธุรกิจการจัดส่งอาหาร เรารู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ท็อปส์ ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจกลุ่มฟู้ดที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน เป็นองค์กรค้าปลีกที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินมาโดยตลอด และเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตรายแรกที่ดำเนินภารกิจกอบกู้อาหารส่วนเกินด้วยระบบดังกล่าว ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกหมุดหมายสำคัญแห่งประวัติศาสตร์และเป็นก้าวสำคัญของการสร้างความมั่นคงให้กับระบบอาหารอย่างยั่งยืนในประเทศไทย และสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมให้โลกของเราทุกคน”
สำหรับการจำหน่ายอาหารส่วนเกินผ่านแอปพลิเคชัน Yindii (ยินดี) ท็อปส์จะนำอาหารส่วนเกินจากกระบวนการจำหน่ายที่ยังมีคุณภาพดี รับประทานได้มาจัดเป็นกล่องสุ่มอาหารในรูปแบบ Surprise Bag ได้แก่ เซตอาหารสด เซตผลไม้และผักสด จำหน่ายในราคาสุดประหยัดเริ่มต้นตั้งแต่ 80 - 200 บาท ซึ่งลูกค้าจะรู้ว่าสินค้าในเซตดังกล่าวประกอบด้วยอะไรบ้างต่อเมื่อเปิดถุงเซอร์ไพรส์ ที่บรรจุอาหารส่วนเกินจากการจำหน่าย ในแต่ละวัน อาทิ ผัก ผลไม้ เบเกอรี่ อาหารพร้อมทาน นม โยเกิร์ต ชีส เครื่องดื่ม ไข่ไก่ ไส้กรอก แฮม เบคอน ฯลฯ โดยในระยะแรกของการจำหน่ายเมื่อลูกค้าสั่งซื้อเซตอาหารส่วนเกิน สามารถเลือกบริการส่งสินค้าถึงบ้านหรือรับสินค้าที่ท็อปส์ และแฟมิลี่มาร์ททั้ง 15 สาขาในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ท็อปส์ สาขา สีลม คอมเพล็กซ์, สุขุมวิท 19, เอ็มไพร์ ทาวเว่อร์, สุขาภิบาล 3, อ่อนนุช, แคมปัส วอล์ก เกษตร, อาร์ซีเอ, พระราม 9,ชิดลม 19, พิบูลวัฒนา, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, % ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ สาขา คริสตัล ปาร์ค, เซ็นทรัลเวิลด์ แฟมิลี่มาร์ท สาขา ศูนย์วัฒนธรรม และ จันทร์ 27 โดยผู้ซื้อจะได้รับความคุ้มค่าทั้งด้านคุณภาพ และประหยัดการใช้จ่ายในแต่ละมื้ออาหารได้มากถึง 50 เป็นการลดปริมาณขยะอาหารที่เกิดจากอาหารส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งต่อความสุขผ่านมื้ออาหารแทนการทิ้งให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์เป็นการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และเตรียมเตรียมขยายความร่วมมือไปยังสาขาอื่นๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศ
“ปัจจุบันผู้บริโภคได้ตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาขยะอาหารมากขึ้น ทำให้ธุรกิจอาหารส่วนใหญ่โดยเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ตหันมาให้ความสำคัญในการกำหนดแนวทางบริหารจัดการอาหารส่วนเกินทุกวิถีทาง ท็อปส์ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับ Yindii ซึ่งสะท้อนความสำเร็จของการทำงานอย่างหนักร่วมกัน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างเสริมความยั่งยืนด้านอาหารให้แก่สังคม รวมถึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการกอบกู้อาหารและปกป้องโลก สร้างประโยชน์ร่วมกันในทุกมิติ ซึ่งสอดคล้องกับแกนดำเนินธุรกิจ Discover Happiness ของท็อปส์ที่ชวนให้ลูกค้าได้มาค้นหาและสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง รวมถึงการสร้างสังคมที่น่าอยู่ได้ทุกวันที่ท็อปส์ ” นายสเตฟาน กล่าวสรุป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand
#Tops #EveryDayDISCOVERY #DiscoverHappiness #ท็อปส์ #เซ็นทรัล #Yindii
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,543 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565)
เกี่ยวกับ Yindii
ในปี 2563 Yindii แอปกอบกู้อาหารส่วนเกินอันดับ 1 ของประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการ เพื่อเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกับอาหารส่วนเกินแสนอร่อยจากซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ, ร้านขนมเบเกอรี่, ร้านอาหารและห้องอาหารในเครือโรงแรมด้วยส่วนลดราคาพิเศษ ในปัจจุบัน Yindii ได้กลายเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนที่สุดสำหรับธุรกิจการจัดส่งอาหาร, สนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมปกป้องโลกในขณะที่เคี้ยวอาหารแสนอร่อยอยู่ที่บ้านและช่วยให้ธุรกิจร้านค้ามีความยั่งยืนจากการสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นด้วยการลดการสูญเสียอาหาร เพียงแค่ดาวน์โหลดแอป Yindii, ทำการเลือกตำแหน่งที่ตั้งและค้นหาเมนูอาหารส่วนเกิน เช่น อาหารกลางวัน, ผักและผลไม้, ขนมอบและเค้ก, หรือของชำจากรายการร้านค้า เราสามารถเลือกสั่งกล่องอาหารเซอร์ไพรส์ในราคาลดพิเศษ 50% ถึง 80% ได้ง่ายๆ โดยเลือกรับได้ทั้งจากบริการจัดส่งหรือรับด้วยตัวเองตามเวลาที่ร้านค้ากำหนด ซึ่งการกอบกู้กล่องเซอร์ไพรส์อาหารคุณภาพดีแสนอร่อยทุกๆ กล่อง ผู้บริโภคจะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 10% ที่เกิดจากขยะอาหาร ซึ่งเทียบเท่ากับ 4 เท่าจากการปลดปล่อยของอุตสาหกรรมการบิน ขอบคุณ Yindii กับการทำให้กิจกรรมประจำวันอย่างการกินอาหารในแต่ละมื้อได้มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าพันธมิตรเข้าร่วมจำหน่ายกับ Yindii มากกว่า 300 ร้านค้า รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ, ร้านขนมเบเกอรี่, ร้านอาหารและห้องอาหารในเครือโรงแรม โดยตัวอย่างแบรนด์ชั้นนำที่ได้เข้าร่วมการปฏิวัติขยะอาหารกับ Yindii ได้แก่ Tops Market, Centara Grand, Hyatt, Texas Chicken, S&P, และ MX Bakery เป็นต้น
ภารกิจของ Yindii คือการสร้างความตระหนักรับรู้ถึงผลกระทบของขยะอาหารและส่งเสริมให้คนไทยหลายล้านคนร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องโลกสีเขียวของพวกเรา เพราะเราเชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจที่จะช่วยกอบกู้อาหารอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง วิสัยทัศน์ของเราที่จะทำให้โลกนี้ไม่มีอาหารที่ถูกผลิตขึ้นมาปราศจากการบริโภคเป็นจริงได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น