กรุงเทพฯ 3 เมษายน 2566 – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับ ธนาคารออมสิน และ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เดินหน้าสร้างความร่วมมือผลักดันศักยภาพ Startup และ SMEs ผ่านแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ท็อปส์ ท้องถิ่น ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” เพื่อดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการ Startup และ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เทคโนโลยี และนวัตกรรม ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ ตามแนวคิด DISCOVER HAPINESS เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน หนึ่งในแกนสำคัญของการดำเนินธุรกิจของท็อปส์ มุ่งสู่ Food Discovery & Destination ยกระดับประสบการณ์ในทุกมิติให้ผู้บริโภคทุกคน
นายไบรอัน ฮิลล์ ผู้อำนวยการ ท็อปส์ ท้องถิ่น บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า การส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นภารกิจสำคัญของท็อปส์ ภายใต้เป้าหมายการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม จึงเป็นที่มาของการริเริ่มแพลตฟอร์มแห่งโอกาส “ท็อปส์ ท้องถิ่น” หรือ www.topstongtin.com ซึ่งดำเนินการโดยทีมงานคนรุ่นใหม่ที่ต้องการผลักดันศักยภาพ หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ร่วมกระบวนการเฟ้นหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับท็อปส์ สร้างโอกาสในการเข้าถึงช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายในร้านค้าปลีกชั้นนำระดับประเทศ และให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการสนับสนุนสินค้าอร่อยจากผู้ประกอบการชาวไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ชวนมาค้นพบสินค้าคุณภาพรวมของดีจากท้องถิ่น ตามแนวคิด Every Day DISCOVERY ล่าสุดเพื่อพัฒนาศักยภาพ Startup และ SMEs พร้อมสร้างโอกาสนำสินค้ามาจำหน่ายที่ท็อปส์ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ “ท็อปส์ ท้องถิ่น” จึงลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) กับธนาคารออมสิน และ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นของทั้ง 3 องค์กรเพื่อร่วมกันผลักดันผู้ประกอบการรายเล็กให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และการเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และให้คำปรึกษา ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แนะแนวการบริหารจัดการ ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ส่งต่อผู้ประกอบการระหว่างโครงการท็อปส์ ท้องถิ่น สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และธนาคารออมสิน ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการจ้างงานการสร้างรายได้
ด้านนางปรางมาศ เธียรธนู รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ กล่าวว่า “ธนาคารออมสินมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ที่ผ่านมาธนาคารมีความร่วมมือกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยในหลายด้าน และการได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม ท็อปส์ ท้องถิ่น เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การสร้างช่องทางการขาย สร้างโอการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด ธนาคารออมสินจะคอยสนับสนุนผู้ประกอบการให้เติบโต และพร้อมที่จะก้าวเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ อยู่คู่ชุมชนและสังคม เพื่อความสุขที่ยั่งยืนของผู้ประกอบการไทย”
ทางด้านนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า “สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ท็อปส์ ท้องถิ่นและธนาคารออมสิน ได้มาร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้สามารถเข้าถึงตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่น เพิ่มโอกาสกระจายรายได้ เกิดการจ้างงาน และใช้ตลาดและนวัตกรรมนำการผลิต ภายใต้แหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำของธนาคารออมสิน โดยท็อปส์ ท้องถิ่น ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการรายย่อยลดกระบวนการที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และมีทีมงานที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การพัฒนา โมเดลเศรษฐกิจ BCG และ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ตลอดจนนวัตกรรมในการสร้างความยั่งยืน (Sustainnovation) ให้กับสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายมูลค่า GDP SME และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
“ปัจจุบันท็อปส์ ท้องถิ่น ดำเนินโครงการมาเป็นระยะเวลา 1 ปี มีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 350 ราย จากทั่วประเทศ จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของทีมงานท็อปส์ท้องถิ่นและผู้ประกอบการทำให้ปัจจุบันมีสินค้ากว่า 125 รายการ ที่ได้รับการพัฒนาจนมีคุณภาพที่ดี รสชาติอร่อย มีบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยสวยงามพร้อมวางจำหน่ายที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 32 สาขาทั่วประเทศ และ ท็อปส์ ออนไลน์ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก เราเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้อย่างมั่นคง ขณะที่ลูกค้าของท็อปส์ก็จะได้เลือกซื้อสินค้าที่ดีทั้งด้านคุณภาพและราคา เป็นการเติมเต็มประสบการณ์ทั้งด้านการช้อปปิ้งและการสร้างคุณค่าร่วมกันให้กับลูกค้าและสังคมและจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” นายไบรอัน กล่าวสรุป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.topstongtin.com และ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ท็อปส์ ท้องถิ่น Tops Tongtin”
#Tops #EveryDayDISCOVERY #TopsTongtin #ท็อปส์ #ธนาคารออมสิน #สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย #เงินทุน
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,543 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น