ต้อนรับวันสิ่งแวดล้อมโลก 2023 ที่กำลังใกล้เข้ามา ไทวัสดุ ชวนทุกคนมารู้จักหนึ่งในแนวคิดสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม นั่นก็คือ "กรีน ลิฟวิ่ง" ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเท่านั้น แต่รวมถึงการใช้ชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาเมืองให้อยู่ร่วมกันได้ สำหรับธุรกิจภาคอสังหาฯ – การก่อสร้างซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการอยู่อาศัยนั้น ปัจจุบันผู้ประกอบการสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าเพื่อบ้านจำนวนมากต่างคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้พลังงาน และรบกวนทรัพยากรธรรมชาติใหม่ให้ช้าลง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้คนรักบ้าน ได้รักทั้งบ้านและสิ่งแวดล้อมไปด้วย
· อิฐบล็อกเบารักษ์โลก – จากเดิมที่การก่อสร้างมักจะใช้อิฐมอญที่มีความแข็งแรง แต่น้ำหนักมากและใช้เวลาในการก่อสร้างนาน สู่การนำอิฐมวลเบามาใช้ ซึ่งน้ำหนักเบา ขนย้ายง่าย แต่ก็มีข้อเสียคือยึดติดของน้ำหนักมากไม่ได้ ทำให้ปัจจุบันมีอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาหลายด้าน นั่นก็คืออิฐบล็อกเบา ซึ่งมีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทาน ก่อสร้างง่าย รวมไปถึงยังเป็นวัสดุที่รักษ์โลกอีกด้วย เพราะการผลิตทำจากวัตถุดิบจากการรีไซเคิล เช่น แกลบ ขี้เลื่อย ถึง 50% มีค่านำความร้อนต่ำ ทำให้ประหยัดพลังงานในบ้าน และตัวอิฐน้ำที่หนักเบาทำให้ประหยัดพลังงานในการขนส่งด้วย
· สีรักษ์โลก – สีทาบ้านมักจะมีส่วนประกอบเป็นสารเคมีต่างๆ เพื่อให้สีติดทนและสวยงาม ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อมหากกำจัดสีที่เหลือหรือถังสีไม่ถูกวิธี แต่ปัจจุบันก็มีผู้ผลิตจำนวนมากคิดค้นนวัตกรรมสีทาบ้านที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ยังมีนวัตกรรมสีรีไซเคิลซึ่งเป็นการผลิตจากสีได้รับคืนมาด้วยหรือในสต็อกที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว และผลิตถังสีจากพลาสติกรีไซเคิลอีกด้วย
· พื้นไม้ลามิเนต – บ้านพื้นไม้เป็นสิ่งที่คนรักบ้านหลายคนชื่นชอบ เพราะให้ความรู้สึกที่อบอุ่น แต่ไม้ก็เป็นทรัพยากรที่หายากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุทดแทนพื้นไม้ธรรมชาติ เช่น ลามิเนต ก็จะช่วยลดจำนวนการตัดไม้ทำลายป่า ไม่ต้องใช้สารไดออกซินในกระบวนการผลิต จึงปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
· หลอดไฟ LED – แสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกบ้าน การเลือกใช้หลอดไฟ LED มีข้อดีทั้งด้านความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะหลอด LED ไม่มีสารปรอทในกระบวนการผลิต และแสงที่ได้ไม่มี UV และความร้อนที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพการใช้งานสูง อายุการใช้งานยาวนาน ช่วยลดการก่อปริมาณขยะให้กับโลก
· แผงโซลาร์เซลล์ – ถือเป็นตัวเอกของวงการพลังงานสะอาด และเหมาะสมอย่างยิ่งกับบ้านเราที่มีแสงแดดอยู่ตลอด โดยนำพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช้เชื้อเพลิงใดๆ ไม่มีการเผาไหม้ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุ ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 13 ปี ถือว่าเป็นธุรกิจต้นน้ำของงานก่อสร้างหลาย ๆ แห่ง จึงมุ่งมั่นผลักดันแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการขับเคลื่อนธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ตามเจตนารมณ์ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรต้นแบบที่ยั่งยืนแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมเติบโตเคียงข้างสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน
"ในปี 2023 นี้ ไทวัสดุมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนนโยบายกรีน ลิฟวิ่ง ให้เกิดขึ้นในวงกว้างทั่วประเทศ โดยไทวัสดุเดินหน้าจับมือกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เข้าถึงคนไทยมากขึ้น เช่น ร่วมมือกับธนาคารเพื่อผลักดันแคมเปญลดดอกเบี้ยให้กับบ้านที่ติดแผงโซลาร์เซลล์ และร่วมผลักดันวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เข้าถึงคนไทยทุกภูมิภาค ในไทวัสดุ 71 สาขาทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับช่องทางออนไลน์ และแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล (Omni Channel) เพื่อยกระดับประเทศไทยไปสู่การก่อสร้างยุคใหม่ที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” นายสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย
สำหรับใครที่วางแผนอัพเกรดบ้านให้รักษ์โลก สามารถเลือกสรรสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้แล้ว ที่ไทวัสดุทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ www.thaiwatsadu.com สั่งได้ครบจบงานง่าย ติดตามข้อมูลข่าวสาร และโปรโมชั่นดีๆ จากไทวัสดุ ได้ที่ Facebook: Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร. 1308
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,553 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 31 มีนาคม 2566เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566)
#ไทวัสดุ #บ้านรักษ์โลก #วัตกรรมวัสดุก่อสร้างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม #วัสดุก่อสร้าง #เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม #chokweekly #Cyberainews #cyberaitea #จ่าเพิร์ธ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น