กรุงเทพฯ 6 มิถุนายน 2566 - บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เดินหน้าสู่การเป็นองค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกแห่งเอเชีย ที่มุ่งมั่นลงมือทำจริงและทำอย่างต่อเนื่องด้วยแนวคิดการดำเนินธุรกิจสร้างความยั่งยืนใน 3 มิติ สิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance : ESG) จนเกิดเป็นผลลัพธ์เชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรมกับทุกภาคส่วนสู่ความสมุดล มั่งคั่ง และยั่งยืน
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล ย้ำชัดเจตนารมณ์องค์กรในการเป็น Green & Sustainable Retail ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน เดินหน้าลดคาร์บอน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างวิถีชีวิตและเศรษฐกิจที่ดีให้กับชุมชน ผ่านกลยุทธ์ CRC ‘ReNEW’ โดยมี ผลลัพธ์การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในปี 2022 และ เป้าหมายในระยะสั้นภายในปี 2030 ดังนี้
1.Reduce Greenhouse Gases การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยสามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้ 8% จากการใช้พลังงานทั้งหมด ด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ 83 สาขา และสถานีประจุไฟฟ้า 58 สาขา รองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ 790 คัน ในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า, ส่งเสริมการใช้รถบรรทุกไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า, การติดตั้งตู้เย็นประหยัดพลังงานกว่า 217 ตู้ เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด 50% ในปี 2030
2.Navigate Society Well-Being การสร้างสังคมให้น่าอยู่ ด้วยการผนึกกำลังคู่ค้าในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจให้ลดต้นทุน ลดขั้นตอน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความพึงพอใจของผู้บริโภคมากที่สุด นอกจากนี้ยังส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เช่น การจ้างงานคนพิการกว่า 412 คน รวมทั้งให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนและช่องทางการจำหน่าย โดยสามารถสนับสนุนชุมชนมากกว่า 100,000 ครัวเรือน สร้างรายได้กว่า 1,500 ล้านบาท พร้อมกำหนดเป้าหมายในปี 2030 เป็น 5,400 ล้านบาทต่อปี
3.Eco-friendly Product and Packaging การส่งเสริมสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการขยายร้านค้าสีเขียวจำหน่ายสินค้ารักษ์โลก จำนวนกว่า 60 แห่ง เช่น ร้าน Healthiful, Tops Green โดยตั้งเป้าเดินหน้าเปิดเพิ่มเป็น 200 แห่ง รวมทั้งสนับสนุนการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ถึง 6% ด้วยการเพิ่มตัวเลือกสินค้าที่เป็นกรีนโปรดักส์ สินค้าออร์แกนิค สินค้าวีแกน และอื่นๆ พร้อมตั้งเป้าให้ได้ 100%
4.Waste Management การบริหารจัดการขยะมูลฝอย โดยสามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 15% ด้วยการแปลงขยะเป็นปุ๋ยหรือแก๊สหุงต้มเพื่อลดปริมาณขยะสู่หลุม ฝังกลบ, การประยุกต์เศรษฐกิจหมุนเวียนผ่าน 3Rs เช่น การรีไซเคิลขวดพลาสติกในโครงการขวดเปล่าไม่สูญเปล่าให้เป็นผ้าห่มกันหนาวให้กับผู้ขาดแคลน, การส่งเสริมให้ลูกค้านำถุงผ้ามาใช้เอง และการรณรงค์คัดแยกขยะอย่างถูกวิธีกับทุกภาคส่วน เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายการนำขยะมาใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเป็น 30%
ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ตระหนักถึงปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อมซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน จึงเร่งเครื่องภารกิจ เส้นทางสู่ Net Zero ด้วยการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ด้วยแนวทางปฏิบัติที่เข้มข้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคืนออกซิเจนให้โลกด้วยการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าต้นน้ำและเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่า ตั้งเป้า 50,000 ไร่ในปี 2030 ,การลงทุน สีเขียวในด้านนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเพื่อช่วยลดโลกร้อน ,การส่งเสริมใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดในรูปแบบต่างๆ เช่น การเปลี่ยนผ่านการขนส่งคาร์บอนต่ำเป็นพลังงานไฟฟ้า และบริการจุดเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
“เซ็นทรัล รีเทล ยืนหยัดแน่วแน่ในพันธกิจที่จะขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสมดุลและยั่งยืน พร้อมส่งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพในระยะยาวให้กับประเทศชาติต่อไป” ญนน์ กล่าวปิดท้าย
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,553 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 31 มีนาคม 2566เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566)
#เซ็นทรัล #เซ็นทรัลรีเทล #ลดคาร์บอน









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น