บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านโรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ POP MART ผู้นำด้านป๊อปคัลเจอร์และความบันเทิงชั้นนำจากประเทศจีน ได้ร่วมมือกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาร์ตทอยคัลเจอร์ในประเทศไทย
การร่วมทุนครั้งนี้เกิดขึ้นโดยแผนกธุรกิจค้าปลีกของ Minor International หรือที่รู้จักในนาม Minor Lifestyle และ POP MART ถือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างผู้นำอุตสาหกรรมทั้ง 2 ฝ่าย การร่วมมือกันนี้จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่มีร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดอาร์ตทอยในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับการขยายความร่วมมืออันไร้รอยต่อในระดับโลกต่อไป ด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญในการค้าปลีก และการตลาดที่กว้างขวางของ Minor International ใน 63 ประเทศและลิขสิทธิ์ใน IP (intellectual property) ที่มีชื่อเสียงของ POP MART
รากฐานที่แข็งแกร่งของ Minor International ในตลาดค้าปลีกไทยเกิดจากจุดแข็งที่หลากหลาย ตั้งแต่เครือข่ายร้านค้าแฟชั่น และไลฟ์สไตล์กว่า 250 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไปจนถึงศักยภาพด้านการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ คลังสินค้า และการดำเนินงาน จุดแข็งเหล่านี้เติมเต็มกับความเชี่ยวชาญของ POP MARTสร้างให้เกิดความน่าตื่นเต้นและโอกาสสำหรับศิลปินชาวไทย ขณะเดียวกันเพื่อตอกย้ำจุดยืนอันแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทในการขับเคลื่อนและสรรค์สร้างแบรนด์ร่วมกัน พร้อมทั้งส่งเสริมแผนพัฒนาทางการตลาดให้ดำเนินต่อไปอย่างประสบความสำเร็จ
"ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่โดนใจลูกค้าและส่งผลกระทบเชิงบวกให้กับทุกๆฝ่ายที่มีส่วนในความสำเร็จของเรา" นายไมคา ตามไท (Micah Tamthai) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ กล่าว "การร่วมทุนกับ POP MART นี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการขยายพอร์ตโฟลิโอ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง"
ประเทศไทยซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีตลาดผู้บริโภคที่เติบโตและสดใส และยังคงเผชิญกับการเติบโตของกลุ่มประชากรชนชั้นกลางที่ร่ำรวย ขนาดตลาดอุตสาหกรรมของเล่นและเกมของประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่แปดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แซงหน้าขนาดตลาดของ ฮ่องกง และสิงคโปร์ นอกจากนี้ด้วยตัวเลขจีดีพีซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักที่สูงกว่า "10,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหัว" ความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปตามอารมณ์ และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลง สร้างให้เกิดช่วงเวลาของโอกาสสำหรับการขยายตลาดอาร์ตทอย
มร. มูน ดุก อิล (Moon Duk il) ประธานผู้บริหารฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของ POP MART เปิดเผยถึงเป้าหมายระยะยาวที่เต็มไปด้วยความหวังของการร่วมทุนในประเทศไทย "เราคาดการณ์ว่าจะเปิดร้านค้าปลีกและร้านป๊อปอัพมากถึง 20 แห่ง พร้อมด้วยตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (POP MART ROBOSHOP) ประมาณ 50 ตู้ทั่วประเทศไทย แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกมีกำหนดเปิดในเดือนกันยายนนี้ ตามด้วยสาขาที่ 2 ในเดือนธันวาคม เรามั่นใจว่าแผนงานเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี"
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 POP MART ได้ขยายการเข้าถึงตลาดทั่วโลกอย่างแข็งขัน โดยเน้นที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย การร่วมทุนในประเทศไทยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเติบโตเชิงกลยุทธ์ของบริษัท
นอกเหนือจากการสนับสนุนการสร้างช่องทางการขายแล้ว POP MART ยังคงอุทิศตนเพื่อส่งเสริมอาร์ตทอยคัลเจอร์ โดยการจัดงานนิทรรศการเกี่ยวกับอาร์ตทอยที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ PTS International Art Toy Show เพื่อให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผู้บริโภคในท้องถิ่น ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ POP MART โดยนับเป็นงานแสดงอาร์ตทอยขนาดใหญ่ครั้งแรกในตลาดต่างประเทศ
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Minor International และ POP MART เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในความมุ่งมั่นร่วมกันของสองฝ่าย ทั้งการขยายธุรกิจทั่วโลก และการเพิ่มคุณค่าทางวัฒนธรรม ความร่วมมือครั้งนี้มีขึ้นเพื่อกำหนดนิยามและทิศทางใหม่ให้กับวงการอาร์ตทอยในประเทศไทย และอื่น ๆ เพิ่มศักยภาพให้กับศิลปิน ดึงดูดผู้บริโภค และปลูกฝังอาร์ตทอยคัลเจอร์ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาในภูมิภาคนี้
###
เกี่ยวกับไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล:
Minor International ก่อตั้งมานานกว่า 50 ปี เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ระดับโลก ด้านการโรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอบประสบการณ์พิเศษทั่วโลกด้วยความทุ่มเทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ด้วยการดำเนินงานที่ขยายไปอย่างกว้างขวางทั่วโลก ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลดำเนินธุรกิจโรงแรมและห้องพัก 533 แห่ง ร้านอาหาร 2,540 แห่ง และร้านขายปลีก 282 แห่งใน 63 ประเทศ ไมเนอร์ โฮเทล เป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และลงทุน ในโรงแรม ภายใต้แบรนด์ต่างๆ เช่น Anantara, AVANI, Oaks, Tivoli, Elewana, NH และ Nhow ใน 56 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา มหาสมุทรอินเดีย ยุโรป และอเมริกา
ไมเนอร์ ฟู้ด ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารที่ให้บริการอย่างรวดเร็วและเป็นกันเองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีร้านอาหารมากกว่า 2,500 แห่งใน 24 ประเทศ โดยมีแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบ เช่น The Pizza Company, Swensen's, Sizzler, Dairy Queen, Burger King, Bon Chon, Thai Express, The Coffee Club, Bread Talk (ประเทศไทย), Riverside และ Benihana เป็นต้น
ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ไลฟ์สไตล์และสินค้ารับจ้างผลิตรายใหญ่ในประเทศไทย จับมือแบรนด์ดังอย่าง Bossini, Anello, Charles & Keith, Zwilling J.A. Henckels, Joseph Joseph, Berghoff, MLK Connect และ Minor Smart Kids ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาแบบหลายช่องทางของบริษัทปรับให้เข้ากับโลกดิจิทัลในปัจจุบัน โดยเชื่อมโยงการค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
วิสัยทัศน์ด้านความเป็นเลิศของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลช่วยผลักดันความเป็นผู้นำในการมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำซึ่งก้าวข้ามพรมแดนและวัฒนธรรม ความมุ่งมั่นอันไม่เปลี่ยนแปลงของบริษัททั้งในด้านการสร้างนวัตกรรม และความพึงพอใจให้กับลูกค้าทำให้ไมเนอร์เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกทั้งในธุรกิจอาหาร โรงแรม และไลฟ์สไตล์
เกี่ยวกับ POP MART:
POP MART ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 ได้กลายเป็นผู้นำเทรนด์ในอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างรวดเร็ว ดึงดูดใจแฟนๆ หลายล้านคนในกว่า 25 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ด้วยร้านค้าแบบออฟไลน์กว่า 400 ร้านค้าและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (POP MART ROBOSHOP) 2,000 เครื่อง ในสิ้นปีพ.ศ. 2565 การเข้าถึงทั่วโลกของ POP MART ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากความมุ่งมั่นในการ "สร้างสรรค์เทรนด์ใหม่ๆและส่งมอบความสุข"
หัวใจของความสำเร็จของ POP MART อยู่ที่การอุทิศตนให้กับอาร์ตทอย ด้วยการใช้ศักยภาพอันเชี่ยวชาญใน 5 ด้านหลัก ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับศิลปินระดับโลก การพัฒนาลิขสิทธิ์ใน IP (intellectual property) การเข้าถึงผู้บริโภค การส่งเสริมอาร์ตทอยคัลเจอร์ รวมถึงการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรมและการลงทุน ทำให้ IP (intellectual property) ที่มีชื่อเสียงของพวกเขา เช่น MOLLY, SKULLPANDA, DIMOO, THE MONSTERS และ HIRONO ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลก ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาและสร้างฐานแฟนที่แข็งแกร่ง และมีคุณภาพ
POP MART ร่วมมือกับเจ้าของลิขสิทธิ์ใน IP (intellectual property) คลาสสิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการสร้างสรรค์นวัตกรรมของพวกเขา การผสมผสานวัฒนธรรม และรูปแบบศิลปะที่สร้างสรรค์นี้ ทำให้ POP MART ได้กลายมาเป็นผู้นำในการมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่น่าดึงดูดใจ และเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกอย่างมาก
#ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล #POPMART #ป๊อปมาร์ท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น