กรุงเทพฯ 7 กันยายน 2566 – ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ลุยขยายสาขาตามแผน ทุ่มงบกว่า 400 ล้านบาท เปิดตัว New Format ใหม่ สาขาแรกในภาคเหนือ ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย ซึ่งเป็นสาขาที่ 74 ของประเทศ มั่นใจช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ด้วยการผนึกรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างจากไทวัสดุ กับสินค้าตกแต่งบ้านจากบีเอ็นบี โฮม เข้าด้วยกันบนพื้นที่ร้านกว่า 20,000 ตร.ม จากแบรนด์ดังที่ครบครันที่สุดกว่า 40,000 รายการ โดยในจังหวัดมีไทวัสดุ สาขาเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่อำเภอ สารภี เปิดนำร่องก่อนนี้
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านยังคงมีสัญญาณที่ดี และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคเหนือที่ดีมานด์กลุ่มสินค้าฮาร์ดไลน์มีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น จากการเข้ามาลงทุนของภาคเอกชนทั้งไทยและต่างชาติ การปรับปรุงสาธารณูปโภคภายในจังหวัดของภาครัฐเพื่อตอบสนองนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว และการพัฒนาพื้นที่ให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจต่างๆ จนทำให้เกิดบิ๊กโปรเจ็กต์จากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ โรงแรมอย่างต่อเนื่อง จากประเด็นดังกล่าว ไทวัสดุจึงได้เร่งเดินหน้าขยายสาขา ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย ซึ่งเป็นสาขาที่ 74 ของประเทศ โดยมีกลยุทธ์ที่สำคัญต่าง ๆ ดังนี้
· ยกระดับธุรกิจค้าปลีกฮาร์ดไลน์ ผ่านยุทธศาสตร์ “CRC Retailligence” ดีเอ็นเอค้าปลีกยั่งยืนData ecosystem) ไทวัสดุได้มีการนำระบบวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบนิเวศ (ของเครือเซ็นทรัล รีเทล มาใช้เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการในการเลือกซื้อสินค้าอย่างครบวงจรผ่านช่องทางออนไลน์ไปยังช่องทางออฟไลน์ มีการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และชุมชนบริเวณโดยรอบผ่านการดำเนินงาน เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟด้วยระบบแบบ On-grid ขนาด 999 KWp นโยบายเพิ่มพื้นที่ สีเขียวผ่านการปลูกต้นไม้ใหญ่ภายในบริเวณสโตร์ การกระจายความยั่งยืนไปสู่ชุมชนทั้งการจ้างงาน กว่า 300 อัตรา การส่งเสริมรายได้ของผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นผู้นำเทรนด์ (Trend Setter) ในด้านวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและของตกแต่งบ้านที่นำเสนอได้อย่างตรงใจกับผู้ใช้บริการทั่วประเทศ
· ปักหมุดครอบครองทำเลศักยภาพ - จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอสันทราย ที่เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ด้วยความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งแหล่งท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก สถานศึกษา สถานประกอบการ และห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้การลงทุนของภาคอสังหาฯ โครงการหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่อำเภอสันทรายเติบโตตามไปด้วย ไทวัสดุจึงได้เลือกปักหมุดแลนด์มาร์คศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน ที่ครบครันที่สุดแห่งล่าสุด ณ พื้นที่แห่งนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการทำตลาดและเข้าถึงชาวสันทรายและพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 120,000 ครัวเรือน
· ครั้งแรกของภาคเหนือ กับสาขา Collaboration ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม – ไทวัสดุยกระดับธุรกิจค้าปลีกสินค้าฮาร์ดไลน์ด้วยการผนึกไทวัสดุ ร่วมกับบีเอ็นบี โฮม ซึ่งเป็นสาขาแรกในภาคเหนือ หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในภูมิภาคอื่น ๆ โดยในสาขาเชียงใหม่ สันทรายนี้ ได้นำเสนอสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่เหมาะกับผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการ ผู้รับเหมา ช่าง และลูกค้าทั่วไป อาทิ สินค้ากลุ่มโครงสร้าง อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือช่าง เฟอร์นิเจอร์ห้องครัว สินค้าเพื่อบ้าน โรงแรม และร้านอาหาร พร้อมกันนี้ยังได้เปิดศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ‘ออโต้วัน สาขาเชียงใหม่ สันทราย’ เอาใจผู้ใช้รถด้วยช่างมืออาชีพและมากประสบการณ์ เสนอโปรโมชันฉลองเปิดสาขาใหม่กับ โปรเปลี่ยนยาง 3 แถม 1 พร้อมลดราคาน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรค แบตเตอรี่ สูงสุดถึง 50%
“จังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้มีการเติบโตแค่เพียงในพื้นที่อำเภอเมืองเท่านั้น แต่ยังมีอำเภอใกล้เคียง อย่างอำเภอสันทราย ที่เป็นพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัด มีการคมนาคมที่สะดวก การขยายสาขาของไทวัสดุล่าสุดนี้จึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยรองรับทุกความต้องการได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นชาวเชียงใหม่ อำเภอและจังหวัดใกล้เคียงในภูมิภาคเดียวกัน” นายสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย
สำหรับ ในปี 2566 ณ ปัจจุบันจนถึงเดือนกันยายนนี้ไทวัสดุ ได้เปิดสาขาใหม่แล้วทั้งสิ้น 9 สาขา ได้แก่ 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร 5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย 8. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาสมุทรปราการ 9. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย และยังมีแผนเปิดสาขาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงเดือนธันวาคม 2566
#ไทวัสดุ #วัสดุก่อสร้าง #ตกแต่งบ้าน #ซีอาร์ซีไทวัสดุ #ไทวัสดุเชียงใหม่ #ไทวัสดุสันทราย
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,553 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์GO! ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 31 มีนาคม 2566เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น