กรุงเทพฯ 11 ตุลาคม 2566 - ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าสร้างประสบการณ์พร้อมเติมเต็มช่องว่างด้วยการสร้างความแตกต่างให้แก่วงการธุรกิจค้าปลีก ต่อยอดแนวคิด Every Day DISCOVERY เติมเต็มพอร์ตฟอลิโอด้วยการพลิกโฉม “ท็อปส์ เดลี่” (Tops daily) จากรูปแบบร้านมินิซูเปอร์มาร์เก็ตเดิมๆ ให้เป็นมากกว่าจุดหมายของการเลือกซื้อสินค้า พร้อมสร้างความแตกต่างผ่านประสบการณ์ความสนุกด้วยกลยุทธ์ธุรกิจโมเดลใหม่ พร้อม ดีเดย์ ท็อปส์ เดลี่ ในรูปแบบ Joy-venience ทั้ง 525 สาขาทั่วประเทศ ที่จะเข้ามาเติมเต็มช่องวาง พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและขยายความสนุกเข้าไปใกล้ชีวิตประจำวันลูกค้ามากขึ้น ด้วยกลุ่มสินค้าพร้อมรับประทาน หรือ Ready to Eat ไปจนถึงสินค้าในชีวิตประจำวันที่ครอบคลุมที่หลากหลายและมีจำหน่ายเฉพาะที่ท็อปส์เท่านั้น โดยตั้งเป้าเป็นศูนย์รวมแห่งความสนุกที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Every Day for Everyone ให้กับลูกค้าในทุกวัน ยืนหยัดเป็นผู้นำธุรกิจฟู้ดรีเทลที่เข้าถึงใจลูกค้าอย่างแท้จริงในทุกช่วงเวลา
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า กว่า 27 ปี ที่ท็อปส์ได้เรียนรู้และเข้าใจอินไซต์ลูกค้าและผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกช่วงเวลา ประกอบกับเทรนด์ธุรกิจค้าปลีกและบทบาทของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวหน้า โดยนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ล่าสุดจึงได้เปิดตัวธุรกิจโมเดลใหม่ ‘ท็อปส์ เดลี่’ ในรูปแบบ “Joy-venience store” ศูนย์กลางแห่งความสนุกที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าในทุกวัน พร้อมต่อยอดกลยุทธ์ 1 BRAND ด้วยการรวมทุกโมเดลค้าปลีกให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในทุกเซกเมนต์ นับเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดที่จะยกระดับอีกขั้นของประสบการณ์ให้กับลูกค้า ช้อปสนุกได้ทุกวัน ทุกเวลา
‘ท็อปส์ เดลี่’ ในรูปแบบ Joy-venience store ที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่าง พร้อมเปลี่ยนประสบการณ์การจับจ่ายในชีวิตประจำวันให้เป็นความสะดวกสบายที่เต็มไปด้วยความสนุกแปลกใหม่ยิ่งกว่าที่เคย ผ่านโมเดลใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้งที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิด ‘Every Day for Everyone ค้นพบความสุขทุกวันในแบบคุณ’ โดยจากข้อมูลพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าพบว่า ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความสะดวก รวดเร็ว เดินทางง่ายและใกล้บ้าน ขณะเดียวกันยังคงมองหาสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพมาตรฐานจนถึงระดับพรีเมียม ประกอบกับความคุ้มค่าของราคาและโปรโมชั่น ‘ท็อปส์ เดลี่’ จึงถูกออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ผ่านกลยุทธ์ 4 Joy เพื่อสร้างจุดต่างที่ดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาช้อปและสนุกกับการเข้ามาพบประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ทุกวัน ได้แก่
· Joy Eat: สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยที่แตกต่าง ง่าย ไว สะดวกสบาย กับสินค้า Eat now Eat later พร้อมรับประทานที่หลากหลายที่สุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่ถึงแม้จะใช้ชีวิตแบบเร่งรีบแต่ก็ยังคงมองหาความสนุกผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยจะได้เพลิดเพลินไปกับการครีเอทเมนูในแบบของตนเองผ่านตู้ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสไตล์เกาหลี มิกซ์ด้วยท็อปปิ้งจากหม้อโอเด้งพร้อมทานให้ได้เลือกสรรค์ ชื่นใจไปกับตู้กดไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ และอีกมากมาย การันตีมาตรฐานวัตถุดิบคุณภาพสดใหม่ ให้ทุกมื้ออาหารสนุกและมีสีสันยิ่งขึ้น
· Joy Shopping: ค้นพบสินค้าคุณภาพระดับเวิลด์คลาสได้ง่ายๆ ใกล้บ้าน กับกองทัพสินค้าคุณภาพจากทั่วโลกรวมกว่า 6,000 SKU ซึ่งเยอะที่สุดในประวัติการณ์ ครอบคลุม 14 กลุ่มสินค้า โดดเด่นด้วยสินค้านำเข้าและสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ รวบรวมไว้ให้เลือกช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ เท่านั้น พร้อมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าใหม่เข้ามาเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าทุกครั้งที่ได้มา
· Joy Value: ราคาดีโดนใจทั้งราคาปกติหรือโปรโมชั่นสุดคุ้มจัดเต็มตลอดทั้งปี อาทิ แคมเปญสินค้าล็อคราคา, สินค้า RED HOT ลดราคาพิเศษ, สินค้าซื้อ 1 แถม 1, สินค้าซื้อ 2 ชิ้นประหยัดกว่า, โปรโมชั่นประจำวันอีกมากมาย เพื่อส่งมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าในทุกวัน
· Joy-Loyalty: ช้อปสนุกทุกครั้งจนอยากกลับมาอีกกับลอยัลตี้โปรแกรมมัดใจลูกค้า สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก The1 ให้ทุกการช้อปคุ้มค่ายิ่งขึ้น เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกเท่านั้น อาทิ โปรโมชั่นสะสมคะแนน แลกรับ Extra points โปรโมชั่น สะสมสนุกแลกสุข e-stamp เพื่อแลกรางวัลสุดคุ้ม และอีกมากมาย
“ท็อปส์ เดลี่ จะเป็นอีกหนึ่งในโมเดลสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ตธุรกิจของกลุ่มฟู้ดรีเทลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับท็อปส์ ปัจจุบันได้ดำเนินการปรับรูปแบบโมเดลร้านใหม่แล้วรวม 525 สาขา และจะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการขยายสาขาในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่มีความต้องการที่หลากหลาย ด้วยการดึงศักยภาพด้านความเป็นหนึ่งในเรื่องการคัดสรรสินค้าคุณภาพมาเสริมความแข็งแกร่ง โดยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเป็นอีกเครื่องพิสูจน์ของความสำเร็จในการก้าวสู่ความเป็น Food Discovery and Destination ของประเทศไทยได้อย่างมั่นคง” นายสเตฟาน กล่าวสรุป
ด้าน นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด, ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์ ยังคงมุ่งมั่น ที่จะส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งปันความสุขให้กับลูกค้าตลอดทั้งปี และในโอกาสการฉลองเปิดตัว “ท็อปส์ เดลี่” ในรูปแบบ Joy-venience store โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ สำหรับลูกค้าที่มาร่วมเปิดประสบการณ์ช้อปปิ้ง สามารถร่วมรับสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟได้ที่ “ท็อปส์ เดลี่” ทุกสาขา ได้แก่
· ช้อปครบ 200 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับคะแนน The1 X2! พร้อมรับฟรี กระเป๋า Tops daily จำนวนจำกัด 7 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ – 17 ตุลาคม 2566
· สะสมสนุกแลกสุข เพียงช้อปครบ 100 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับ e-stamp 1 ดวง เพื่อสะสมแลกรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1,200 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 14 พฤศจิกายน 2566
· ช้อปสินค้า 120 บาท รับส่วนลด 50 บาท สำหรับสมาชิกใหม่ The1 พร้อมรับฟรี! น้ำดื่มยินดี 600 มล. ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2566 พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มอีกมากมาย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.topsdaily.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsdailyThailand หรือ อินสตาแกรม Topsdaily_th
#Topsdaily #EveryDayforEveryOne #EveryDayDISCOVERY #ท็อปส์ #ท็อปส์เดลี่ #เซ็นทรัลรีเทล
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,615 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566)
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น