กรุงเทพฯ 23 พฤศจิกายน 2566 – นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล เราเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ที่ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดี มาตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมในกลุ่มแฟชั่น ฟู้ด ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้ากว่า 3,600 แห่งทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ด้วยการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้เซ็นทรัล รีเทล สามารถสร้างผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้าง “Platform of Trust” สำหรับธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม จนทำให้เราได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากสถาบันชั้นนำต่างๆ อาทิ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าซึ่งถือของเซ็นทรัล รีเทล ด้วยอันดับที่ดีที่สุดในภาคอุตสาหกรรมค้าปลีก ที่ระดับ "AA-" แนวโน้ม "Stable" หรือ “คงที่” ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำค้าปลีกค้าส่งที่มีความแข็งแกร่ง มั่นคง และมีความน่าเชื่อถือด้านสถานะการเงิน รวมทั้งยังได้รับการประเมินในด้านการกำกับดูแลกิจการที่โปร่งใสในระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 ดาว ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (CGR) ที่สำคัญเซ็นทรัล รีเทล ยังได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ในระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดของประเทศไทย จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 รวมทั้งได้รับรางวัล Commended Sustainability Awards กลุ่มรางวัล Sustainability Excellence จากเวที SET Awards 2023 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างการเติบโตให้องค์กร ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”
ล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล ได้เสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่มองหาหุ้นกู้ที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม และขายหมดเกลี้ยงเกินคาด ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าเกือบ 3 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 5,000 ล้านบาท ทำให้ เซ็นทรัล รีเทล พิจารณาเพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) อีกจำนวน 2,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าสุทธิ 7,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการและขยายฐานนักลงทุนให้แก่บริษัทฯ ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและศักยภาพทางการเงินให้มากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความคล่องตัวและช่วยลดต้นทุน อีกทั้งยังช่วยรองรับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ และสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป
“ในนามของเซ็นทรัล รีเทล ผมต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนสถาบันและนักลงทุนทุกราย ที่ให้ความเชื่อมั่น การสนับสนุน และให้การตอบรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกของบริษัทฯ ในครั้งนี้อย่างล้นหลาม ตลอดจนสถาบันการเงินผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทย ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกของเซ็นทรัล รีเทล ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเราจะยังมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนให้สมกับความไว้วางใจที่ทุกท่านมอบให้กับเรา” นายญนน์ กล่าวทิ้งท้าย
#เซ็นทรัลรีเทล #CRC #หุ้นกู้ #หุ้นกู้เซ็นทรัลรีเทล #SETAwards2023
หมายเหตุ : สำหรับหุ้นกู้ที่เสนอขายประกอบด้วยหุ้นกู้ 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.26% ต่อปี, รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.53% ต่อปี และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.84% ต่อปี โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,648 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น