กรุงเทพฯ 7 ธันวาคม 2566 – เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) ต่อยอดนโยบายการลดปริมาณขยะ สอดรับเทรนด์ Zero Waste เปลี่ยนถุงเมล็ดกาแฟ เป็นกระเป๋ารีไซเคิลสุดชิคที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะ มีให้เลือก 2 สไตล์ทั้งแบบกระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าสะพาย โดยเป็นการนำถุงเมล็ดกาแฟที่ต้องทิ้งเปลี่ยนเป็นกระเป๋าสุดลิมิเต็ดที่มาพร้อมความพิเศษคือกระเป๋าแต่ละใบจะได้รับการออกแบบโดยเฉพาะทำให้มีลวดลายไม่เหมือนกันที่รังสรรค์ขึ้นโดยช่างคนไทย นอกจากเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนงานฝีมือท้องถิ่น ยังช่วยแปรรูปขยะภายในร้านให้เกิดประโยชน์ ตอกย้ำปณิธานของแบรนด์ที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เดอะ คอฟฟี่ คลับ ร้านอาหารออลเดย์ไดนิ่งสัญชาติออสเตรเลีย นอกเหนือจากเมนูอาหารเช้าที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ เรายังมีความโดดเด่นด้านเมนูกาแฟที่รังสรรค์จากเมล็ดพันธุ์ระดับโลก ซึ่งแต่ละวันจะมีการจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟในปริมาณมาก ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ให้บริการเมนูเครื่องดื่มแบบ Zero Waste ที่เสิร์ฟความหอมกรุ่นมาในถ้วยรับประทานได้ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค และล่าสุดกับการต่อยอดไอเดียรักษ์โลกซึ่งถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์ด้วยการนำถุงเมล็ดกาแฟทั้ง Signature Blend และ Siam Blend ที่หลังใช้แล้วจะกลายเป็นขยะต้องนำไปทิ้งมาเปลี่ยนเป็นกระเป๋าที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวันมาในคอนเซ็ปต์ Upcycle Bag For Earth นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดขยะจากการใช้งานแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสอีกหนึ่งประสบการณ์ที่แปลกใหม่จากแบรนด์อีกด้วย
สำหรับความพิเศษของกระเป๋า ECO Coffee bag by The Coffee Club ครั้งนี้ จะผลิตและออกแบบทั้งหมด 2 ดีไซน์ 2 สไตล์ด้วยกัน ได้แก่ กระเป๋าสตางค์ (Wallet) ในราคาใบละ 219 บาท และกระเป๋าสะพาย (Cross Body Bag) ราคาใบละ 499 บาท ซึ่งขั้นตอนการผลิตกระเป๋าทุกใบจะรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตโดยช่างฝีมือคนไทย ดังนั้นกระเป๋าทุกใบจะมาพร้อมความพิเศษคือมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน และผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเท่านั้น พร้อมเปิดให้จับจองล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก The Coffee Club Thailand แฟนเพจ พร้อมรับสินค้าจริงได้ในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป เฉพาะร้านเดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขาในกรุงเทพฯ เท่านั้น
ใครเป็นสายแฟชั่นแต่รักษ์โลกต้องห้ามพลาดกับกระเป๋า ECO Coffee bag รุ่นลิมิเต็ดสุดยูนีคจาก เดอะ คอฟฟี่ คลับ ต้องการสอบถามข้อมูลรวมถึงติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/thecoffeeclubthailand
: เกี่ยวกับ ‘เดอะ คอฟฟี่ คลับ’ (The Coffee Club)
เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) ก่อตั้งขึ้นด้วยชื่อที่จดจำได้ง่าย จากการเปิดสาขาแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2532 ที่ Eagle Street Pier ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย จนมาถึงวันนี้ที่ขยายสาขาได้มากกว่า 400 สาขาใน 10 ประเทศทั่วโลก เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคอกาแฟทั่วโลก มอบความรู้สึกสบาย มีสไตล์ เข้าถึงง่าย เดอะ คอฟฟี่ คลับใส่ใจในทุกรายละเอียด นำเสนออาหารและกาแฟที่ปรุงทุกเมนูขึ้นมาด้วยความใส่ใจ พร้อมบริการที่เป็นมิตร ที่แห่งนี้จึงเป็นมากกว่าสถานที่นัดพบ แต่เป็นที่ที่ผู้คนสามารถพบปะกันเคล้าไปกับรสชาติของกาแฟ สำหรับประเทศไทย เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) อยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งได้รับความนิยมและเปิดขยายสาขา ครอบคลุมทั้งในบริเวณย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ อย่าง วิทยุ สีลม สุขุมวิท และในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต กระบี่ เกาะสมุย หัวหิน และพัทยา
#เดอะคอฟฟี่คลับ #TheCoffeeClub #ZeroWaste #เดอะไมเนอร์ฟู้ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น