กรุงเทพฯ 9 มกราคม 2567 – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี “CRC Retailigence” ด้วยงบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท ลุยขยาย 3 สาขา ใน 3 เดสติเนชันรวด ต้อนรับศักราชใหม่ รองรับดีมานด์ช่วงไฮซีซั่น พร้อมดึงกำลังซื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ตอกย้ำความแข็งแกร่งของศักยภาพผู้นำฟู้ดรีเทลไทยที่เข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้าในทุกเซกเมนต์ ด้วยการพัฒนารูปแบบร้านที่โดดเด่นและทันสมัย พร้อมนำเสนอประสบการณ์สินค้าและบริการที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่อย่างครอบคลุม เพื่อยกระดับสู่การเป็น Food Destination & Discovery ที่ยืนหนึ่งในใจลูกค้าทุกคน
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ท็อปส์ได้ประกาศกลยุทธ์จัดทัพธุรกิจกลุ่มฟู้ดเป็นหนึ่งเดียวกัน เรายังคงเดินหน้าพัฒนารูปแบบร้านและขยายสาขาเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ได้เดินหน้าขยาย 3 สาขาใหม่ใน 3 จังหวัดสำคัญ ได้แก่ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เมกาบางนา กรุงเทพฯ, ท็อปส์ สาขาราวาญานา จังหวัดภูเก็ต และ ท็อปส์ สาขาฟู้ดดี้ฟาร์ม จังหวัดนนทบุรี โดยเลือกเจาะทำเลสำคัญที่มีศักยภาพสูงของกรุงเทพฯ โซนตะวันตก แหล่งตลาดชุมชน ที่มีการขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอย่างจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับดีมานด์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เตรียมเดินทางเมาท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ทำให้ปัจจุบันท็อปส์ มีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 161 สาขา ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการเป็นผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตทุกฟอร์แมท ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์โดยเป็นค้าปลีกฟู้ดรีเทลที่มีร้านหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล
· ‘ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เมกาบางนา’ ดื่มด่ำประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสที่สมบูรณ์แบบ
สัมผัสอีกขั้นของประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือระดับที่ ‘ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เมกาบางนา’ ซึ่งได้ยกระดับจากโมเดลร้านท็อปส์ สู่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูง (Affluent) ของโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเข้าใจของแบรนด์ที่มีต่อลูกค้า และการปรับรูปแบบร้านให้เหมาะกับอินไซต์ผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยนับเป็นพรีเมียมฟู้ดสโตร์สาขาที่ 18 ภายใต้แบรนด์ท็อปส์ อาณาจักรสินค้าอาหารและวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมจากทั่วทุกมุมโลกรวมกว่า 28,000 รายการ อาทิ ผลไม้สดนำเข้าเกรดพรีเมียม อาหารทะเลและสารพัดเนื้อหลากสัญชาติ วัตถุดิบคุณภาพที่ดีที่สุดเพื่อมื้อพิเศษ ขนมขบเคี้ยวแบรนด์ดัง และอีกมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Discover A Truly World Class Food Destination” บนพื้นที่กว่า 2,056 ตารางเมตร ออกแบบด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและทันสมัยทั้งภายในและภายนอก พร้อมด้วยบริการชั้นเลิศในทุกขั้นตอนและโปรโมชั่นสุดพิเศษที่ลูกค้าจะได้มาร่วมค้นพบตลอดทั้งปี
· ‘ท็อปส์ ราวาญานา’ ปักหมุดเดสติเนชั่นของนักช้อป-ทัวร์ริสต์ เสริมแกร่งทำเลภาคใต้
ภูเก็ตนับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2566 คิดเป็นสัดส่วน 12% ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย คิดเป็นรายได้ 30% ของทั้งประเทศ และคาดว่าในปี 2567 การท่องเที่ยวของภูเก็ตจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ท็อปส์เล็งเห็นโอกาสจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น จึงได้เปิดตัว ‘ท็อปส์ ราวาญานา’ ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า Mixx Mall Rawayana บนทำเลด้านหน้าหาดราไวย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Rawayana Beach Front Village พัฒนาโดยบริษัท Phuket 9 นับเป็นโมเดลร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาแห่งที่ 7 ของจังหวัดภูเก็ต นำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับ พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางแห่งการเติมเต็มไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร ด้วยสินค้าอาหารคุณภาพพรีเมียมจากทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการรวมกว่า 14,000 รายการ
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ได้ยก Tops Wine Cellar ร้าน Specialty Store ที่คัดสรรไวน์รสชาติเยี่ยมจากทั่วโลก เก็บรักษาในห้องควบคุมอุณหภูมิตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมซอมเมลิเย่ร์ให้คำแนะนำ เพื่อเสิร์ฟความต้องการของลูกค้าในพื้นที่แห่งนี้รวมถึงบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มองหาจุดหมายด้านอาหารชั้นเลิศ ให้ได้ดื่มด่ำท่ามกลางบรรยากาศริมชายหาดและธรรมชาติอันสวยงาม
· ‘ท็อปส์ ฟู้ดดี้ฟาร์ม’ ครั้งแรกกับการขยายสู่คอมมูนิตี้มาร์เก็ต แหล่งตลาดชุมชน ตอบทุกโจทย์ความอร่อย สะดวก ครบวงจร เข้าถึงได้ง่ายในแหล่งชุมชน
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ท็อปส์ได้เน้นกลยุทธ์การขยายสาขาเข้าไปยังแหล่งตลาดชุมชนในรูปแบบของ Community Market เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าในชุมชนต่างๆ ได้มากขึ้น เป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าคุณภาพหลากหลายรายการให้คนในพื้นที่ชุมชนได้เลือกซื้อโดยไม่ต้องเดินทางเข้ามาในเมือง สะดวก เข้าถึงได้ง่าย สำหรับ ‘ท็อปส์ ฟู้ดดี้ฟาร์ม’ จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ด้านวัตถุดิบและอาหารคุณภาพ และเป็นตัวเลือกใหม่ที่ครบครันให้กับผู้บริโภคในพื้นที่ย่านบางใหญ่ โดยตั้งอยู่ภายในตลาดฟู้ดดี้ฟาร์มบางใหญ่ (FoodyFarm Bangyai Community Market) บนถนนบางม่วง-บางคูลัด ที่มีความหน้าแน่นของแหล่งชุมชน และมีโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 50 โครงการ รวมกว่า 10,000 ยูนิต นับเป็นครั้งแรกที่ท็อปส์ขยายสาขาในพื้นที่ตลาดแบบโมเดิร์น นับเป็นคอมมูนิตี้มาร์เก็ตที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในพื้นที่ที่ต้องการแวะจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภค-บริโภคเข้าบ้านโดยไม่ต้องเดินทางไกลได้อย่างครบวงจร ทำให้ท็อปส์ ยิ่งเข้าใกล้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
“ท็อปส์ เดินหน้าธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน จึงไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนารูปแบบร้านและขยายสาขาใหม่เพื่อเข้าใกล้ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมในทุกๆ เซกเมนต์ โดยเชื่อว่าการเปิดตัวสาขาใหม่ทั้ง 3 แห่งจะไม่ใช่เพียงการเติมเต็มประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับลูกค้า แต่ยังนำไปสู่การกระตุ้นการจับจ่ายของตลาดค้าปลีกในช่วงปีใหม่ให้คึกคักยิ่งขึ้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในปี 2567 นี้” นายสเตฟาน กล่าวสรุป
ค้นพบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่างและครบครันที่สุดที่ท็อปส์ ราวาญานา ท็อปส์ ฟู้ดดี้ฟาร์ม และ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เมกาบางนา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 22.00 น. ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand
#Tops #EveryDayDISCOVERY #ท็อปส์ #เซ็นทรัลรีเทล #ท่องเที่ยว #ตลาดชุมชน #เมกาบางนา
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,648 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ เดลี่ บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น