กรุงเทพฯ 29 กุมภาพันธ์ 2567 – นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล โชว์ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจปี 2566 กวาดรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์รวม 248,688 ล้านบาท (+5% YoY) EBITDA 32,436 ล้านบาท (+8% YoY) และกำไรสุทธิ 8,016 ล้านบาท (+12% YoY) พร้อมนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราสูงถึง 0.55 บาทต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา 15% ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล ที่มีอีโคซิสเต็มที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการที่เซ็นทรัล รีเทล สามารถดำเนินงานตามแผนงานทุกอย่างที่วางไว้ และรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถปิดปีได้แบบนิวไฮ และเสริมแกร่งความเป็นเบอร์ 1 Next-Gen Omni Retailer and Wholesaler ได้อย่างมั่นคงในทุกกลุ่มธุรกิจ”
ไม่เพียงสร้างการเติบโตทางธุรกิจ แต่เซ็นทรัล รีเทล ยังลงมือทำเรื่องความยั่งยืนให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างจริงจัง โดยในปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล และสร้างความยั่งยืนในหลากหลายมิติ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา Climate Crisis ของโลก อาทิ การเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 15.7% ด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์รวม 136 สาขา และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 50,000 ตัน พร้อมทั้งยังช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนมากกว่า 100,000 ครัวเรือนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย ทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในไทยและระดับสากล อาทิ การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกกลุ่มดัชนีความยั่งยืน DJSI World 2023 ในระดับ Top 5% ในกลุ่ม Retailing พร้อมทั้งติดอันดับสมาชิกในกลุ่ม DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2, การได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2566 ในระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดของไทย และรางวัล Commended Sustainability Awards จากเวที SET Awards 2023 รวมถึงยังได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่โปร่งใสในระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 ดาว ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2566 อีกด้วย
“เซ็นทรัล รีเทล ยังคงมุ่งมั่นสานต่อธุรกิจปี 2567 อย่างแข็งแกร่งภายใต้วิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ที่จะยกระดับวงการค้าปลีกค้าส่งสู่ The New Era of Brilliance ด้วยการนำ AI เข้าไปผนวกในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ พร้อมทั้งใช้ AI เข้ามาติดอาวุธให้กับพนักงานของเรา เพื่อ Upskill และสร้างประสบการณ์ในรูปแบบ Hyper Personalised Omni Experience ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า และด้วย DNA ของเซ็นทรัล รีเทล ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา และพร้อมปรับตัวอยู่ตลอด เรายังมีแผนที่จะรีโนเวทห้างร้านในเครือ และขยายธุรกิจหลักอย่างเต็มที่อีกกว่า 40 สาขาในไทยและเวียดนาม ตลอดจนเดินหน้า Scale up ธุรกิจ B2B อย่างเต็มรูปแบบ และพาธุรกิจเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Community ต่างๆ เพื่อสร้าง Network และ Value กับกลุ่มลูกค้าในระยะยาว ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่ดูแลทุกภาคส่วนให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตาม Brand Purpose ของเราในการเป็น Central to Life ศูนย์กลางชีวิตของทุกคนอย่างแท้จริง” นายญนน์ กล่าวสรุป
#เซ็นทรัลรีเทล #นิวไฮปี66 #กำไร #CRC #ท็อปส์
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,809 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ /บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 60 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น