ปลุกพลังเศรษฐกิจไทย! ยกระดับบริการ สร้างมูลค่าเพิ่ม ผลักดันประเทศไทยไม่หยุดยั้ง - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ดารา บันเทิง ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีAi ข่าวธุรกิจ888 cyberainews by chokweekly chokcyberai

Facebook CyberAi news

Post Top Ad

21 มีนาคม 2567

ปลุกพลังเศรษฐกิจไทย! ยกระดับบริการ สร้างมูลค่าเพิ่ม ผลักดันประเทศไทยไม่หยุดยั้ง

 


กรุงเทพฯ ประเทศไทย 21 มีนาคม 2567ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP ในประเทศไทยในไตรมาสแรกของปี 2024 จะยังคงชะลอตัว ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้แนะนำว่าภาครัฐในฐานะที่เป็นผู้กำหนดนโยบายควรให้ความสำคัญกับมาตรการระยะยาวเพื่อเพิ่มศักยภาพและการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น การท่องเที่ยวและการบริการโรงแรม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นและเพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาดที่มากขึ้น
 
หลังจากการเติบโตในปีพ.ศ. 2566 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.9% ซึ่งชะลอตัวลงจากปีพ.ศ. 2565 ถึง 2.5% ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดการคาดการณ์ในการเติบโตสำหรับปีนี้ โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC) ปรับลดประมาณการการเติบโตเป็นช่วง 2.2-3.2% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วที่ 2.7-3.7%
 

จุดที่น่าจับตามองสำหรับเศรษฐกิจไทยประกอบด้วยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และความแข็งแกร่งของภาคบริการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มุ่งเน้นไปที่การดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูงและส่งเสริมการบริการระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังเหล่านี้ยังคงห่างไกลจากความเป็นจริง เนื่องจากประมาณการค่าใช้จ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวถูกบันทึกว่าต่ำกว่าปกติอย่างมาก แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ประเทศ อ้างอิงจากงานวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา [1] รายงานเศรษฐกิจรายเดือน (กุมภาพันธ์ 2567)

 

 

เลียม คอร์ดิงลีย์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Oxford Economics กล่าวว่า ในขณะที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เติบโตภายหลายวิกฤติโควิด โดยรัฐบาลในฐานะที่เป็นผู้กำหนดนโยบายได้ตั้งเป้าหมายชัดเจนที่จะก้าวข้ามการท่องเที่ยวแบบแมส-มาร์เก็ตซึ่งเคยเป็นแนวทางหลักในการโปรโมตอุตสาหกรรมนี้ ไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเพื่อก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินเข้าสู่การท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น รวมถึงเมืองรองได้มากกว่าที่เคยเป็นมา”เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลไทยควรเฟ้นหานโยบายที่มีประสิทธิภาพ โดยเอื้อให้เกิดการกระตุ้นการพัฒนาด้านบริการการท่องเที่ยวและการโรงแรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง รวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งสร้างรายได้มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทให้แก่ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงพิจารณาการยกระดับและเสริมทักษะของบาร์เทนเดอร์ กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม นักลงทุน และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อตอบสนองสู่การเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านบริการการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมของประเทศไทยจากรายงานวิจัยฉบับใหม่โดย Oxford Economics ที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนที่แล้ว ชี้ว่าเทรนด์พรีเมียม (Premiumization) หรือการยกระดับการบริโภคสินค้าและบริการ กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตและฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบริการและค้าปลีกของประเทศไทย โดยยกระดับมาตรฐานและการส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เหนือระดับ เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ อันหมายรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่พิเศษไม่ซ้ำแบบใคร แนวโน้มของ "การเลือกสินค้าระดับพรีเมี่ยม" นี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากการเติบโตของปริมาณการบริโภคไวน์และสุราในระดับพรีเมียม จากปี 2564 ถึงปี 2569 ราวกว่า 43% และ 78% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ของไวน์และสุราระดับสแตนดาร์ดและระดับราคาที่ถูกในช่วงเวลาเดียวกันในระดับ 17% และ 5% ตามลำดับเอมิลี่ โรดส์ หัวหน้าฝ่ายการค้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Scotch Whisky Association (SWA) “สก็อตวิสกี้ ในฐานะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมียมที่มีประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานสามารถตอบโจทย์ความต้องการในประเทศไทยโดยเฉพาะการนำเสนอประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมการโรงแรมที่นำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงและมีความหลากหลาย ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวและนำประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ดังที่ตัวอย่างของสก็อตวิสกี้ ที่ประสบความสำเร็จในสกอตแลนด์ โรงกลั่นวิสกี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เกิดการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมและการอุตสาหกรรมโรงแรมในแบบองค์รวม ในขณะที่ภาคธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประกอบการโดยยึดความรับผิดชอบ ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในเชิงบวกเป็นอย่างมาก รวมถึงสร้างเสริมการจ้างงานและการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนบ่มเพาะความรู้ความเข้าใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับการดื่มอย่างรับผิดชอบ ทั้งนี้ แนวทางการทำงานของ SWA ในการสนับสนุนภาคธุรกิจและตลาดสก็อตวิสกี้ในตลาดต่างประเทศนั้น มุ่งเน้นการผลักดันและกระตุ้นให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวกแก่ทุกกลุ่มธุรกิจ"รายงานที่ชื่อว่า "International Wine and Spirits in ASEAN: The Economic Contribution of the International Wine and Spirits Value Chain in Thailand and Vietnam" จัดทำโดย Oxford Economics และได้รับมอบหมายจาก Asia Pacific International Spirits and Wine Alliance (APISWA) เพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจของการขายและจัดจำหน่ายไวน์และสุราต่างประเทศในสองประเทศเศรษฐกิจสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทยและเวียดนาม

 

 #OxfordEconomics #อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad