กรุงเทพฯ 7 พฤษภาคม 2567 – ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันสำหรับบ้านอัจฉริยะประกาศผลประกอบการทางการเงินประจำไตรมาสแรกของปี 2567
· รายได้รวม 68.98 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.01% เมื่อเทียบเป็นรายปี (ไตรมาส 1 ปี 2566: 65.07 พันล้านหยวน)
· กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27.31% เป็น 1.72 พันล้านหยวน
· การปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการและการลดต้นทุนผ่านระบบดิจิทัล
จากแรงผลักดันจากรายงานประจำปี 2566 ที่ผ่านมา Haier Smart Home สามารถเริ่มต้นปี 2567 ได้อย่างแข็งแกร่ง รายได้และกำไรรวมเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยมีรายรับอยู่ที่ 68.98 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิที่เป็นของบริษัทแม่เพิ่มขึ้นเป็น 4.77 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.16% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่กำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการเพิ่มขึ้น 25.41% เป็น 4.64 พันล้านหยวน โดยมีปัจจัยความสำเร็จดังต่อไปนี้
· การเติบโตที่ขับเคลื่อนจากนวัตกรรมด้วยแบรนด์ Casarte
Casarte (คาซาร์เต้) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับลัคชัวรีของบริษัท ยังคงเป็นผู้นำในตลาดระดับไฮเอนด์ของจีน โดยมีลูกค้าทะลุ 20 ล้านราย จากงาน Appliance & Electronics World Expo 2024 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและบ้านอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นหนึ่งในสามงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและบ้านอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Casarte (คาซาร์เต้) ได้เปิดตัวความร่วมมือเชิง กลยุทธ์กับบริษัทตกแต่งบ้าน Boloni ที่งานเฟอร์นิเจอร์นานาชาติ ณ เมืองมิลาน (Salone del Mobile Milano) Casarte (คาซาร์เต้) ได้รวมการออกแบบและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน แสดงให้เห็นการผสมผสานที่ทันสมัยของตู้เย็นและห้องครัว เช่นเดียวกับตู้เย็นและตู้เก็บไวน์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไฮเออร์ในด้านการส่งมอบความหรูหราคู่ประสิทธิภาพในผลิตภัณฑ์
· การเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี
ไฮเออร์เปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ “Lingxi Series” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศในสายการผลิตนี้มีเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Cool Core Bridge การละลายน้ำแข็งด้วยความร้อน และระบบเสียงออฟไลน์อัจฉริยะ ซึ่งกลายเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดอย่างรวดเร็วในช่องทางการขายตรงในประเทศจีน
· ความมุ่งมั่นของไฮเออร์ต่อความยั่งยืน
Haier Smart Home ยังคงทุ่มเทในการบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับโซลูชันสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชาญฉลาด สวยงาม และได้รับความพึงพอใจ โดยตัวอย่างจากความมุ่งมั่นนี้จะเห็นได้จากตู้เย็น “Boguan” ซึ่งได้รับการออกแบบให้ประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นทั่วไปถึง 15% นอกจากนี้ เครื่องซักผ้า “Essence Wash” ยังใช้เทคโนโลยีการซักผ้าด้วยอากาศเพื่อลดการใช้น้ำได้ 38% และลดการใช้ไฟฟ้าลงถึง 29% เช่นเดียวกันกับเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้ลดการใช้ไฟฟ้าลงถึง 29% โดยความประหยัดนี้ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของบริษัท ในการทำให้ผู้ใช้งานมีวิถีชีวิตในการร่วมปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำอีกด้วย
· ความสำเร็จอีกขั้นในตลาดต่างประเทศ
ในไตรมาสแรกของปี 2567 Haier Smart Home มีรายได้ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4% โดยมีสัดส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นสองดิจิเมื่อเทียบเป็นรายปี ในส่วนของระดับภูมิภาค บริษัทมีกำไรที่โดดเด่นในตลาดยุโรปและอเมริกา โดยจากข้อมูลของ GfK China Market Monitor ส่วนแบ่งการตลาดของไฮเออร์ ยุโรป ขยายตัว 0.9 จุดเป็น 9% ระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
เมื่อเผชิญกับความต้องการในตลาดที่ลดลง ในประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของยุโรปและอเมริกา บริษัทจึงได้พัฒนา และแนะนำผลิตภัณฑ์เรือธงที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคนั้น ๆ ความพยายามเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน และเครือข่ายผู้แทนขายในท้องถิ่นต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนา การจัดซื้อ ห่วงโซ่อุปทาน และการทำงานด้านโลจิสติกส์ที่สอดประสานกัน ที่งาน Spring Canton Fair ในเดือนเมษายน ปี 2567 Haier Smart Home ได้เปิดตัวเครื่องซักผ้า “X11” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ข้อจำกัดด้านพลังงานของยุโรป ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมผ่านความความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ในศูนย์วิจัยและพัฒนาของเราในยุโรป ออสเตรเลีย และจีน เครื่องซักผ้า X11 มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงกว่ามาตรฐาน Class-A ที่ถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดของยุโรปถึง 50% ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนในเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้า
· การขยายตลาดของแบรนด์ SAN YI NIAO
SAN YI NIAO เป็นผู้บุกเบิกการบูรณาการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและของตกแต่งบ้าน โดยนำเสนอโซลูชันที่แตกต่าง ซึ่งตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นับได้ว่าแบรนด์อยู่ในระดับแนวหน้าในการผสานเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมเข้ากับโซลูชันการตกแต่งที่ออกแบบตามความต้องการ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในด้านค้าปลีกและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน
ในไตรมาสแรกของปี 2567 SAN YI NIAO ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านตัวชี้วัดสมรรถนะหลัก (KPI) ผู้ใช้ที่ใช้งานโซลูชันตามสถานการณ์ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 32% จำนวนร้านค้าปลีกขยายตัว 85% และยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี ความสำเร็จเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของกลยุทธ์ โดย SAN YI NIAO ในการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ากับการออกแบบเชิงการใช้สอย จึงเป็นการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมครั้งใหม่ที่ช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคดีขึ้น
· เพิ่มประสิทธิภาพโดยการกระโดดเข้าสู่โลกดิจิทัล
Haier Smart Home เปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมให้ได้มากที่สุด การเปลี่ยนแปลงนี้จึงนำไปสู่ประสิทธิผลที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการตลาด โลจิสติกส์ และการดำเนินงานคลังสินค้า โดยส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายลดลงถึง 13.1% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับการลดลง 0.5 จุด เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ยังช่วยทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยลดลง 0.3 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ซึ่งลดลงจนถึงระดับ New Low ที่ 3.2% การพัฒนาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Haier Smart Home ที่จะใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางดิจิทัล เพื่อพัฒนาการดำเนินงานและยังช่วยลดต้นทุนอีกด้วย
· เดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน
แม้ว่าการแข่งขันในตลาดจะทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับสภาพแวดล้อมจากภายนอกที่ผันผวน ผลการดำเนินงานของ Haier Smart Home ในไตรมาสแรกของปี 2567 สามารถทำได้เกินความคาดหวังของสาธารณชนอย่างชัดเจน ความสำเร็จนี้ชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นแต่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยศักยภาพในการเติบโต โดยในอนาคต บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยเปลี่ยนผ่านวิธีการทำงานสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ จากการขยายการดำเนินงานไปทั่วโลก Haier Smart Home พร้อมที่จะคว้าโอกาสในการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ปูทางไปสู่การเติบโตที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนทั่วทั้งตลาด
รายงานของไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีเผยแพร่ทางออนไลน์ที่ https://smart-home.haier.com/en/
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชัน และกิจกรรมต่าง ๆ จากไฮเออร์ได้ที่ Facebook: Haier Thailand, Instagram: @haierthailand_official, X (Twitter): @ThailandHaier, YouTube: @HaierThailandOfficial, TikTok: @haier_thailand และ Line Official : @haierthailand หรือดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.haier.com/th
#Haier #HaierThailand #HaierMoreCreationMorePossibilities
เกี่ยวกับ บริษัท ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จำกัด
ไฮเออร์ คือหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนชั้นนำของโลก โดยมุ่งเน้นที่โซลูชันสำหรับบ้านอัจฉริยะและการผลิตที่ออกแบบตามความต้องการของผู้ใช้ บริษัท ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จำกัด พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือนหลากหลายประเภท ได้แก่ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องใช้ในครัว เครื่องใช้ในครัวเรือนขนาดเล็ก และเครื่องใช้ในครัวเรือนอัจฉริยะอีกมากมาย บริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ครัวเรือนชั้นนำ เช่น Haier, Casarte, Leader, Candy, GE Appliances, AQUA และ Fisher & Paykel — บริษัท ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จำกัด ได้เปิดตัว Smart Home Experiential Cloud ในตลาดจีน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงบ้าน ผู้ใช้ องค์กร และพันธมิตรในระบบนิเวศ อำนวยความสะดวกในการบูรณาการธุรกิจออนไลน์ ออฟไลน์ และร้านค้าขนาดเล็กของไฮเออร์ พร้อมสนับสนุนการโต้ตอบของผู้ใช้เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ผู้ใช้ต่อไปในอนาคต
เกี่ยวกับ ไฮเออร์
ไฮเออร์เป็นผู้ผลิตและผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องไฟฟ้าระดับโลก โดยมีพันธกิจในการสร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค กว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ไฮเออร์ครองแชมป์เครื่องใช้ภายในบ้านอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกัน 15 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2566 โดยการจัดอันดับของสถาบันยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยข้อมูลทางการตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ไฮเออร์ ประเทศไทย ได้คิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อจะสามารถให้การบริการที่ดี และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย ซึ่งในปี
พ.ศ. 2562 ไฮเออร์ได้กำลังดำเนินทิศทางปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์จากการเป็นเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าสู่ความเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า Internet of Things (IoT) และจะดำเนินสู่การเป็นแบรนด์ผู้นำ Ecosystem ในตลาดประเทศไทยต่อไปในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น