#สกสว. #สภาพัฒน์ฯ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ ระดมความร่วมมือขับเคลื่อนแผนศก.จังหวัด พุ่งเป้ายกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น สู่ #ซอฟต์พาวเวอร์ ด้านการท่องเที่ยวด้วยวิทย์ วิจัยและนวัตกรรม - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ดารา บันเทิง ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีAi ข่าวธุรกิจ888 cyberainews by chokweekly chokcyberai

Post Top Ad

18 กันยายน 2567

#สกสว. #สภาพัฒน์ฯ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ ระดมความร่วมมือขับเคลื่อนแผนศก.จังหวัด พุ่งเป้ายกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น สู่ #ซอฟต์พาวเวอร์ ด้านการท่องเที่ยวด้วยวิทย์ วิจัยและนวัตกรรม

 #สกสว. #สภาพัฒน์ฯ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ ระดมความร่วมมือขับเคลื่อนแผนศก.จังหวัด พุ่งเป้ายกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น   สู่ #ซอฟต์พาวเวอร์ ด้านการท่องเที่ยวด้วยวิทย์ วิจัยและนวัตกรรม

 

กรุงเทพฯ 17 กันยายน 2567 – #สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (#สกสว.)ร่วมกับ #สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (#สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เพื่อร่วมวางแนวทางการพัฒนาศักยภาพพื้นที่ด้วยพลังแห่งข้อมูล สู่การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ในระดับพื้นที่และตำบล ผ่าน 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตยางพาราและเกษตรมูลค่าสูง 2. การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 3. การลดความยากจนข้ามรุ่นแบบมุ่งเป้า และ 4.การพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการพัฒนาพื้นที่ 

 

นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า จ.บึงกาฬ มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีตามวิถีลุ่มน้ำโขง จากความโดดเด่นในมิติต่าง ๆ นี้ ทางจังหวัดจึงได้กำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาจังหวัดมุ่งสู่การเป็น เมืองยางพารา การเกษตรก้าวหน้า ประตูการค้าอินโดจีน และการท่องเที่ยววิถีลุ่มน้ำโขง ซึ่งความร่วมมือวันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นแรก ๆ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยสนับสนุน ด้วยการนำองค์ความรู้เข้ามาช่วยพัฒนาอัตลักษณ์ของ จ.บึงกาฬ ให้สามารถก้าวข้ามความยากจน ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน ทำให้จังหวัดบึงกาฬมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและคนมีความสุขมากขึ้น

นางสาวศศิธร พลัตถเดช ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน สศช. กล่าวว่า ทาง สภาพัฒน์ฯ และ สกสว.  เล็งเห็นความสำคัญของการนำวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มาเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนและขับเคลื่อนแผน 13 ในระดับพื้นที่ โดยจังหวัดบึงกาฬ เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องแห่งแรกที่มีศักยภาพในการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนา เนื่องจากประเด็นการพัฒนาของพื้นที่ มีความสอดคล้องกับหมุดหมายการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และมีศักยภาพในการนำงานวิจัยมาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนได้ ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เรียนรู้การนำอัตลักษณ์ ศรัทธาและความเชื่อต่าง ๆ ที่มีคุณค่าของชุมชน มาพัฒนาและยกระดับกิจกรรมและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้และกระจายโอกาสให้คนในพื้นที่ การใช้ประโยชน์จากอัตลักษณ์ที่โดดเด่นนี้ สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของหมุดหมายที่ 2 ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวบนฐานของวัฒนธรรม พื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ในการสนับสนุนให้เกิดการยกระดับการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการสร้าง มูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวโดยชุมชนและการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองได้อย่างชัดเจน และยังสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

ทางด้าน ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ รองผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า ด้วยแผนงานความร่วมมือระหว่าง สภาพัฒน์ฯ ร่วมกับ สกสว. พ.ศ.2567 – 2570 มีวัตถุประสงค์หลัก คือ 1. ผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม (ววน.) ที่มีอยู่ไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม 2. สนับสนุนการวิจัยและสร้างนวัตกรรมสำหรับขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ในส่วนที่ยังเป็นช่องว่างที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม 3. สร้างพื้นที่ต้นแบบการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และแผนด้าน ววน. และจุดประกายการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนแผนของภาคี การพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน นักวิจัย นักวิชาการ และผู้แทนจากหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบายและ ระดับพื้นที่ และ 4. สนับสนุนการเชื่อมโยงฐานข้อมูล องค์ความรู้และเครือข่ายการทำงานในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และแผนด้าน ววน. ทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ที่จะนำไปสู่การหนุนเสริมให้ภาคีการพัฒนาสามารถประสานพลังในการขับเคลื่อนร่วมกันได้อย่างมีเอกภาพ 


















 

“การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นหนึ่งประเด็นสำคัญของการขับเคลื่อนและพัฒนาจังหวัดบึงกาฬ และเป็นตัวอย่างของการนำผลงาน ววน. มาใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ด้วยการการนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นสู่การพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด Local สู่เลอค่า จากความเชื่อและศรัทธาสู่สินค้าทางวัฒนธรรม ต่อยอดเป็น Soft Power สู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ โดย สกสว. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ววน. จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ของประเทศให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้ยั่งยืนร่วมกันต่อไป”

นอกจากนี้ คณะได้เยี่ยมชมสตรีทอาร์ต จาก Local สู่เลอค่า ผ่านความเชื่อและความศรัทธาของชาวบึงกาฬ
ณ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต อ.โซ่พิสัย ของ อาจารย์ขาบ หรือ นายสุทธิพงษ์ สุริยะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ขาบสไตล์ จำกัด ที่สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวอีสานในอดีต พร้อมนำศิลปะของงานออกแบบร่วมสมัยเข้ามาผสมผสานให้ดูสวยงาม ผ่านการจัดการอย่างมีระบบโดยมีวิถีเกษตรชุมชนเป็นตัวเชื่อมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืน รวมทั้งภาพกราฟฟิตี้ที่ โรงพยาบาลโซ่พิสัย ซึ่งอาจารย์ขาบ ได้นำไอเดีย
Local สู่เลอค่า มาปรับปรุงอาคารของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รู้สึกมีกำลังใจและมีรอยยิ้ม เมื่อมารับการรักษาที่โรงพยาบาล

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad