#เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ผนึก #แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป สิงคโปร์ ลงนามความร่วมมือครั้งสำคัญ คัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดจากไทยและสิงคโปร์ส่งตรงถึงผู้บริโภค พร้อมขับเคลื่อน #SMEs ท้องถิ่นสู่ตลาดโลก
กรุงเทพฯ 3 กันยายน 2567 – บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตเชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์ ออนไลน์ และมัทสึคิโยะ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับเอ็นทียูซี แฟร์ไพรซ์ (NTUC FairPrice) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดและวิสาหกิจเพื่อสังคมชั้นนำของสิงคโปร์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างสองผู้นำธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะนำไปสู่การสานต่อและพัฒนาความร่วมมือในหลายด้านเพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้บริโภคระหว่างทั้งสองประเทศในอนาคต
ในระยะแรกของความร่วมมือครั้งนี้ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป จะนำเสนอแบรนด์ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ เดลี่ รวมถึงกลุ่มสินค้า Private Brand ผ่านเครือข่ายของแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป ในสิงคโปร์ โดยตั้งแต่วันนี้ ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์จะสามารถซื้อสินค้าไทยคุณภาพดีรวมกว่า 30 รายการ อาทิ ผลไม้อบกรอบจาก My Choice คุกกี้และบิสกิต Tops Tin ที่จะวางจำหน่ายในกว่า 160 สาขาของร้านในเครือแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป ทั่วสิงคโปร์ รวมถึงช่องทางออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ และในอนาคต เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ยังมีแผนที่จะขยายความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น ครอบคลุมสินค้ากลุ่มเครื่องปรุงรส น้ำพริก น้ำจิ้ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวรูปแบบใหม่ๆ เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ครบครันยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคชาวสิงคโปร์
ในขณะเดียวกัน แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ปจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ House brands ภายใต้แบรนด์ แฟร์ไพรซ์ และ Golden Chef เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป โดยผู้บริโภคชาวไทยจะได้พบกับแบรนด์สินค้าคุณภาพ ได้รับการยอมรับ และเป็นสินค้าประจำบ้านของคนในประเทศสิงคโปร์ จำนวนหลากหลายรายการมาให้เลือกช้อปกับแบบจุใจ ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้จับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับ แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของสิงคโปร์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าไทยคุณภาพสูงไปสู่ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ได้สัมผัสถึงมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารไทย ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์ ‘Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail’ ด้วยการขยายสินค้าภายใต้แบรนด์ท็อปส์ อาทิ My Choice Thai ควบคู่กับการสนับสนุน SMEs ไทยจากโครงการ ท็อปส์ ท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่เพียงการนำเสนอสินค้าไทยคุณภาพดีสู่ตลาดสากล แต่ยังเป็นการยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งบนออมนิแชแนลให้กับผู้บริโภคชาวไทยและสิงคโปร์ เราเชื่อมั่นว่าสินค้าของท็อปส์จะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ด้วยความแข็งแกร่งของเครือข่าย แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป ผสมผสานการช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อผ่านร้านค้าและช่องทางออนไลน์ อันเป็นกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจค้าปลีกระดับโลก”
ด้าน นายวิปุล ชาวลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า “ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ มีความนิยมและชื่นชอบในอาหารและขนมแบบต้นตำรับไทย เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป เพื่อนำเสนอสินค้าไทยคุณภาพดีที่มีความหลากหลายมากขึ้นแก่ลูกค้าของเรา ขณะเดียวกันเรายังได้นำเสนอสินค้า House brands ของแฟร์ไพรซ์ให้กับผู้บริโภคชาวไทย ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับพันธกิจของเราในการส่งมอบสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า”
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นหมุดหมายสำคัญของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ที่ไม่ใช่เพียงแค่การเสริมศักยภาพอันแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนสินค้าท้องถิ่นไทย ด้วยการเสริมสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตในตลาดระดับสากล ภายใต้ความร่วมมือกับแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป จะเดินหน้านำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ในขณะที่ แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป ยังคงยึดมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น ด้วยการนำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ในระยะถัดไป จะมีการเพิ่มจำนวนและประเภทสินค้ามากขึ้น นำมาซึ่งการตอบรับที่ดีของลูกค้าในทั้งสองประเทศและความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญในครั้งนี้
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand
#Tops #EveryDayDISCOVERY
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,744 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 61 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ
เกี่ยวกับ Fair FairPrice
FairPrice Group ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2562 จากการรวมกันของ 4 บริษัท ได้แก่ NTUC FairPrice, NTUC Foodfare, Kopitiam และ NTUC Link โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้น และเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านอาหาร FairPrice Group มุ่งที่จะใช้ทรัพยากรของทั้ง 4 รัฐวิสาหกิจเพื่อสังคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาผสานเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด สร้างคุณค่าที่มากกว่าทั้งด้านสินค้าและบริการ และทำให้การซื้อสินค้าและใช้บริการเกี่ยวกับอาหารเป็นเรื่องง่าย ด้วยเครือข่ายที่มีจุดให้บริการหน้าร้านในหลากหลายฟอร์แมตเกือบ 570 สาขา FairPrice Group มุ่งมั่นที่จะให้บริการสินค้าและบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสำเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน รวมไปถึงร้านอาหาร การสั่งอาหารกลับบ้าน และโปรแกรมสะสมคะแนนที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแบบรายบุคคล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น