“#สกสว. – #มทร.ธัญบุรี” โชว์แนวทางการใช้งบวนน.อย่างมีศักยภาพ ดึงงานแฟลกชิพมหา’ลัย เสริมโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจ - สังคมของประเทศ

 “#สกสว. – #มทร.ธัญบุรี” โชว์แนวทางการใช้งบวนน.อย่างมีศักยภาพ ดึงงานแฟลกชิพมหา’ลัย เสริมโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจ - สังคมของประเทศ

 

กรุงเทพฯ 4 ตุลาคม 2567 – #สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (#สกสว.)   นำโดย รศ.ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการ สกสว. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณด้านการวิจัยและนวัตกรรม ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี  พร้อมเยี่ยมชมตัวอย่างผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุน ววน. ที่มุ่งเน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ชุมชน และผู้ใช้ประโยชน์ ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาโจทย์วิจัยเพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

 

รศ.ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว. มีบทบาทหน้าที่หลักในการจัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ และจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้การบริหารจัดการงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน หรือ Fundamental Fund : FF เป็นแบบ Block Grant มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพด้าน ววน. ของหน่วยรับงบประมาณ สร้างความเข้มแข็งให้กับนักวิจัยและกลุ่มวิจัย รวมถึง สกสว. มีการส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ให้ได้เป็นหัวหน้าโครงการหรือนักวิจัยร่วมของโครงการวิจัยด้วย นอกจากนี้ สกสว. ยังได้นำเสนอเกี่ยวกับพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 โดยกำหนดให้ผู้รับทุนหรือนักวิจัยสามารถเป็นเจ้าของผลงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐได้ เพื่อส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง 

 

ดร.ปิยะทัศน์ พาฬอนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผล สกสว. กล่าวถึง ความคาดหวังในการติดตามและประเมินผลของกองทุน ววน. นำเสนอกรอบการติดตามและประเมินผล รวมถึงวิธีการรายงานผลผลิตผ่านระบบ NRIIS และการประเมิน past performance ที่ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ประสิทธิภาพการบริหารงาน ประสิทธิผลการนำส่งผลผลิตและผลลัพธ์ และการพัฒนาตนเอง โดย past performance เป็นหนึ่งในเครื่องมือการจัดสรรงบประมาณของกองทุน ววน. 

 

ขณะที่ รศ.ดร.เกียรติศักดิ์ แสงประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา ได้นำเสนอแนวทางการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมของ มทร.ธัญบุรี โดยมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับ 5 Flagship ของมหาวิทยาลัย ได้แก่ Agro-food Innovation, Logistics Innovation, Digital Economy, Tourism, Creative Innovation, และ Health and Wellness โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ชุมชน และผู้ใช้ประโยชน์ ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาโจทย์วิจัยเพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง มีการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินผลงานวิจัย เพื่อติดตามและขับเคลื่อนงานวิจัยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบที่ยั่งยืน อีกทั้งสนับสนุนการตีพิมพ์ผลงานวิชาการ การจดทรัพย์สินทางปัญญา และการนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมีโครงการสนับสนุนการสร้าง Startup จากงานวิจัย โดยปัจจุบันมี Startup กว่า 300 ราย ในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับ Idea จนถึง Scale Up และมีความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างกลไกการผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย

นอกจากนี้ มทร.ธัญบุรี ได้แสดงนิทรรศการผลงานวิจัยจากกองทุน ววน. พร้อมนำชมตัวอย่างงานวิจัยที่น่าสนใจจำนวนมาก อาทิ ผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากสารสกัดบัวฉลองขวัญ ซึ่งพัฒนาวัตถุดิบหลักโดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาและนำไปผลิตร่วมกับบริษัท Oriental Princess, นวัตกรรม nano bubbles สู่สเปรย์ SORA ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ ในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์นี้มีจำหน่ายที่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี, ศูนย์ EEC Aviation Center ร่วมกับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เป็นศูนย์ฯ ที่ได้มาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ใช้สำหรับการเรียนการสอนเพื่อเพื่อพัฒนากำลังคนและทักษะด้านการซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ของไทย, และสุดท้ายทางมหาวิทยาลัยได้นำคณะไปเยี่ยมชมโครงการการเขียนภาพพุทธประวัติในจิตรกรรมฝาผนัง เพื่อการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ณ วัดปัญญานันทาราม จ.ปทุมธานี