ความหลงใหลสร้างธุรกิจ ‘#CacaoEverywhere’ ‘#บดินทร์ เจริญพงศ์ชัย’ อยากให้คนรู้จักและรัก #คราฟท์ช็อกโกแลต
กว่า 20 ปีที่ความหลงใหล (Passion) ใน #คราฟท์ช็อกโกแลต ออกเดินทางไม่มีวันหยุด “#บดินทร์ เจริญพงศ์ชัย” ใช้เวลาทุกนาทีไปกับสิ่งนี้แบบไม่ยอมปล่อยมือ จาก Yellow Chocolate กลุ่มที่ร่วมจัดตั้งกับเพื่อนทำกิจกรรมส่งเสริมการปลูกโกโก้ และยกระดับช็อกโกแลตในไทยให้เป็นที่รู้จัก มาถึงการปลุกปั้นลาร์นาเฮ้าส์ (Larna House) ร้านเค้กที่ทำจากช็อกโกแลต ร่วมกับภรรยา “นภัสพร ผลเจริญ”
จากประสบการณ์ที่สั่งสมจากการออกเดินทางทั่วไทย และเดินทางไปทั่วโลก สานต่อแรงบันดาลใจสู่การสร้างแบรนด์ #CacaoEverywhere คาเฟ่แห่งใหม่ที่จะมาเปิดโลกของ #คราฟท์ช็อกโกแลต (#CraftChocolate) ซึ่งเป็นช็อกโกแลตที่มีการพัฒนารสชาติ และการร่วมทำงานกับเกษตรกรตั้งแต่ต้นทาง
แบรนด์คาเฟ่ที่ทุกคนจะหลงรัก
Cacao Everywhere ตั้งอยู่ที่ Art4C ข้างสามย่านมิตรทาวน์ เป็น Flagship Store คาเฟ่ และ Grocery ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ทำจากเมล็ดโกโก้จากเกษตรกรและรัฐวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกพื้นที่ของไทยมาวางจำหน่าย โดยเปิดตัวครั้งแรก 9 เดือน 10 (9 ตุลาคม 2567)
คาแรคเตอร์ของ Cacao Everywhere จะมีทั้งความสนุก ครีเอทีฟ และรู้จริงเรื่อง คราฟท์ ช็อกโกแลต ตั้งแต่คุณบดินทร์และทีมงาน ไปจนถึงคนชงที่เรียกว่า ช็อกโก้ริสต้า (Chocorista) พร้อมเน้นดีไซน์บรรยากาศให้ผ่อนคลาย เป็นสเปซสำหรับคนที่ชื่นชอบช็อกโกแลตได้มาทำความรู้จักกับคราฟท์ช็อกโกแลตอย่างแท้จริง
บรรยากาศภายในร้าน ดีไซน์ให้เป็นทั้งคาเฟ่เครื่องดื่มจากช็อกโกแลตสัญญาติไทย ชา และ ไอศกรีม ที่สร้างสรรค์เมนูที่คิดค้นมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Iced Roasted Almond Choc Heaven การชูกลิ่นหอมของอัลมอนด์ทั้งเปลือกที่คั่วสุกแล้ว มาเพิ่มรสชาติให้ช็อกโกแลตไทย
Cacao Cider Honey Lemon เมนูที่นำโกโก้นิบส์ผ่านการหมัก คั่วจนหอม ทำให้ได้สารอาหารดี ๆ จากนั้น ผสมกับสูตรน้ำผึ้งแท้จากเกสรดอกไม้ และเลม่อน โซดา ช่วยให้ดื่มง่ายแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเมนูเครื่องดื่มราคาเริ่มต้นที่ 80-160 บาท
ส่วน Grocery จะมีช็อกโกแลตแบรนด์ต่าง ๆ จากผู้ผลิตทั่วประเทศมารวมไว้ที่นี่เช่นเดียวกับในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา มีร้านที่เป็นแหล่งรวมช็อกโกแลต มากกว่า 2,000 แบรนด์มาไว้ ณ จุดเดียว เพื่อให้คนที่รักช็อกโกแลตได้เลือกซื้อเป็นของฝากเพื่อนและครอบครัว
ความน่าสนใจของ Cacao Everywhere ก็คือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโกโก้ ที่มีมากกว่า 50 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ต่างหู กระเป๋า เครื่องสำอาง เซรั่ม โพรไบโอติกส์ โกโก้นิปส์ สินค้าด้านสุขภาพที่เน้นกระบวนการผลิต Waste Management เป็นการใช้ประโยชน์จากโก้โก้ให้ได้มากที่สุด โดยมีของเหลือทิ้งน้อยที่สุด เพื่อตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน
แรงบันดาลใจสู่เป้าหมายความยั่งยืน
บดินทร์ ถ่ายทอดความตั้งใจในการปั้น Cacao Everywhere แห่งนี้ขึ้นมาไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่ แต่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ และหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ คราฟท์ ช็อกโกแลตของไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ
เสน่ห์ของช็อกโกแลตไทยในแต่ละแหล่งผลิต (Destination) มีความแตกต่างกันของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เมื่อได้ชิมแล้วจะรับรู้ได้ถึงรสชาติของผลไม้เมืองร้อน คือ มีความเปรี้ยว มีความหอมหวาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้ในประเทศอื่น เช่นผลิตจากจังหวัดน่านจะมีความเป็นฟรุตตี้ หากเป็นที่นครศรีธรรมราชจะมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปส่งเสริมการปลูกโกโก้ พร้อมให้คำแนะนำ เพิ่มความรู้ด้านการหมัก และตาก การกะเทาะเปลือกและคัดสรร เพื่อให้ได้มาซึ่ง คราฟท์ ช็อกโกแลตแท้ รสชาติดี ส่งถึงแหล่งจำหน่าย และผู้บริโภค
Cacao Everywhere จึงเป็นฟันเฟือง “กลางน้ำ” สำคัญที่จะรับซื้อจากเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เบื้องต้นรับจากแหล่งผลิตที่จังหวัดน่านเป็นหลัก เพื่อมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม และเค้ก พร้อมเสิร์ฟให้กับทุกคน
สเต็ปต่อไปในเป้าหมาย 3 ปีต่อจากนี้ Cacao Everywhere เตรียมขยายผลสู่การเติบโตรูปแบบของแฟรนไชส์ 10 สาขาตามเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย ทั้งพัทยา ภูเก็ต และอื่น ๆ จุดหมายสำคัญของผลผลิตช็อกโกแลตจากทั่วประเทศที่จะส่งถึงคนที่รักการบริโภคช็อกโกแลต ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ไม่ใช่แค่แหล่งรับซื้อ แปรรูป และขายเท่านั้น บดินทร์ ยังมองไกลถึงการพัฒนาด้านความยั่งยืนให้เกิดขึ้นด้วยการส่งเสริมเกษตรกรปลูกโกโก้ได้มากเท่าไหร่ยิ่งจะเข้าไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับป่าหัวโล้นได้มากเท่านั้น
หนึ่งเมล็ดโกโก้ บอกเรื่องราว ‘ผู้คน-เศรษฐกิจ’
“ผมเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งที่ปลูกโกโก้ได้ดีไม่แพ้ประเทศอื่น” บดินทร์ มุ่งมั่นตั้งใจกับเส้นทางนี้ จากจุดสตาร์ท Cacao Everywhere ถึงการขยายผลระยะไกลที่ไม่หยุดแค่ในไทยเท่านั้น เพราะได้เตรียมแผนพา คราฟท์ ช็อกโกแลตไทยออกไปโลดแล่นในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย
โจทย์ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน บดินทร์ คิดถึงการวาดภาพลงบนผ้าใบฝืนใหญ่ (Canvas) เพื่อทำให้เห็นว่าแต่ละก้าวนั้นจะไปได้ไกลแค่ไหน
ตั้งแต่ส่งเสริมเกษตรกร สร้างผลผลิตที่ได้คุณภาพ จากนั้นมีกลไกการตลาดและขายรองรับอย่าง Cacao Everywhere รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ที่ใช้ช็อกโกแลตเป็นวัตถุดิบหลัก ไปจนถึงสร้างแบรนด์คราฟท์ ช็อกโกแลต ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
เพื่อให้ได้คำตอบสุดท้ายที่ว่า “หนึ่งเมล็ดโกโก้” หรือ “ช็อกโกแลตหนึ่งแก้ว” คุณค่า หรือ ประโยชน์ที่ได้จะส่งตรงถึงใครได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ต่อครอบครัวเกษตรกรดีขึ้น ธุรกิจเติบโต และจีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นจากพืชเศรษฐกิจที่ชื่อ “ช็อกโกแลต”
จากคนที่หลงใหลในกลิ่นและรสชาติ วันนี้ บดินทร์ ไม่ใช่แค่คิด แต่เริ่มลงมือทำมาตลอด 20 ปี ในการยกระดับศักยภาพ โกโก้และคราฟท์ ช็อกโกแลตของไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมปักธงพาประเทศไทยให้ก้าวไปเป็นเมืองหลวงช็อกโกแลตของภูมิภาคเอเชียในอนาคต








ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น