#ท็อปส์ ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล ยกระดับความยั่งยืน เปิดตัวแคมเปญ “#FoodHero, Taste not Waste” ชวนคนไทยเปลี่ยนมุมมองใหม่ เป็นฮีโร่ได้ง่าย ๆ ด้วยการช้อปสินค้าใกล้หมดอายุ ที่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ พร้อมปล่อยคลิป Tops Food Hero เปิดอินไซต์ผู้บริโภค สร้างการรับรู้แคมเปญฯ ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573 - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ดารา บันเทิง ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีAi ข่าวธุรกิจ888 cyberainews by chokweekly chokcyberai

Post Top Ad

28 พฤศจิกายน 2567

#ท็อปส์ ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล ยกระดับความยั่งยืน เปิดตัวแคมเปญ “#FoodHero, Taste not Waste” ชวนคนไทยเปลี่ยนมุมมองใหม่ เป็นฮีโร่ได้ง่าย ๆ ด้วยการช้อปสินค้าใกล้หมดอายุ ที่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ พร้อมปล่อยคลิป Tops Food Hero เปิดอินไซต์ผู้บริโภค สร้างการรับรู้แคมเปญฯ ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573

 #ท็อปส์ ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล ยกระดับความยั่งยืน  เปิดตัวแคมเปญ “#FoodHero, Taste not Waste”  ชวนคนไทยเปลี่ยนมุมมองใหม่  เป็นฮีโร่ได้ง่าย ๆ ด้วยการช้อปสินค้าใกล้หมดอายุ ที่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ  พร้อมปล่อยคลิป Tops Food Hero เปิดอินไซต์ผู้บริโภค สร้างการรับรู้แคมเปญฯ  ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573


 

กรุงเทพฯ 28 พฤศจิกายน 2567 - ท็อปส์ ผู้นำธุรกิจเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ภายใต้เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้ายกระดับแผนความยั่งยืน เปิดแคมเปญรณรงค์ “Food Hero, Taste not Waste” ชวนผู้บริโภคเป็นฮีโร่ ร่วมลด Food Waste ด้วยการเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการซื้อสินค้า  ที่ใกล้หมดอายุ แต่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ เพื่อลดการเหลือทิ้งสินค้าใกล้หมดอายุโดยเปล่าประโยชน์ ต่อยอดสู่การลดปริมาณขยะอาหารในประเทศไทยที่มีมากกว่า 9.68 ล้านตันต่อปี ชวนผู้บริโภคร่วมซื้อสินค้า  ใกล้หมดอายุที่ติดสติกเกอร์ลดราคาป้ายเหลืองในราคาที่คุ้มค่าลดสูงสุด 30-50% สำหรับสมาชิก The1 รับคะแนนสะสมพิเศษ X2 ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 ที่ร้านท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา พร้อมเปิดตัวคลิปเรื่อง ‘Tops Food Hero’ สื่อสารพฤติกรรมอินไซต์ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าที่ใกล้หมดอายุ   ให้คนดูได้อมยิ้มแต่ให้แง่คิดเสริมด้วยข้อมูลความเป็นจริงเกี่ยวกับสินค้าสติกเกอร์ลดราคาราคาป้ายเหลือง โดยตั้งเป้าให้แคมเปญ สามารถสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะอาหาร 30%  ภายในปี 2573 ตอกย้ำการเป็นผู้นำองค์กรค้าปลีก-ค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย Green & Sustainable Retail & Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล

 

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) จากทั่วโลกยังคงมีความท้าทาย รายงานจาก Food Waste Index 2024 ของ UNEP พบว่าในปี 2565 มีปริมาณขยะอาหารทั่วโลกสูงถึง 1.05 พันล้านตัน ส่วนหนึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากการบริโภค กว่า 60% และ 12% จากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ก่อให้เกิดปริมาณก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนในปัจจุบันสูงถึง 8-10% ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปริมาณขยะอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีปริมาณถึง 9.68 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน ท็อปส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติภายใต้เจตนารมณ์ Green & Sustainable Retail & Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล ด้วยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน ท็อปส์ จึงได้เดินหน้าไปอีกขั้นให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการลดปริมาณอาหารส่วนเกิน ผ่านแคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste” รณรงค์และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคเป็นเสมือนฮีโร่ที่ร่วมกันหันมาตระหนักและเห็นคุณค่าของอาหาร รวมถึงมุมมองที่มีต่อสินค้าลดราคาป้ายเหลือง หรือสินค้าที่ใกล้หมดอายุ ว่าเป็นสินค้าที่ยังคงคุณภาพและมีรสชาติที่ดี สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยเหมือนสินค้าปกติ ซึ่งการที่ทุกคนช่วยกันซื้อสินค้าลดราคาป้ายเหลือง นอกจากจะได้สินค้าที่ราคาถูกกว่าปกติ คุณภาพดีแล้ว ยังเท่ากับได้ช่วยลด Food Waste เราจึงเปรียบคนเหล่านี้ว่าเสมือนเป็น Food Hero อันเป็นที่มาของชื่อแคมเปญนี้ โดยวางเป้าหมายให้แคมเปญดังกล่าวได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะปริมาณอาหารลง 30% ภายในปี 2573”

 

แคมเปญ Food Hero, Taste not Wasteเป็นหนึ่งในแผนงาน 12 Journeys to Net Zero เพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายใต้โครงการ Small Act Together ซึ่งเป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของท็อปส์ รวมถึงสอดคล้องกับกลยุทธ์ “ReNEW” ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสะท้อนปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ “CRC Care”แคมเปญดังกล่าว วางเป้าหมายลดปริมาณอาหารส่วนเกินจากการจำหน่าย ด้วยการลดราคาสินค้าอาหารและวัตถุดิบสูงสุด 30-50% ที่ใกล้หมดอายุแต่ยังคงสภาพและรสชาติที่ดี ได้แก่ เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป ขนม เป็นต้น วางจำหน่ายอยู่ในโซนสินค้าโดยเฉพาะ พร้อมกับมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าโดยจ่ายน้อยลงแต่ได้ความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เมื่อซื้อสินค้าที่ “ติดสติกเกอร์ ลดราคาป้ายเหลือง” สมาชิก The1 รับคะแนนสะสมพิเศษ X2 ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567

 

ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งต่อแนวคิดของการเป็น Food Hero ในวงกว้าง ท็อปส์จึงนำอินไซต์ของผู้บริโภคที่มีต่อซื้อการสินค้าป้ายเหลือง มาสร้างเป็นโฆษณาออนไลน์ชุด “Tops Food Hero” ความยาว 1.55 นาที นำเสนอเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่กำลังจะตัดสินใจเลือกซื้อสตอเบอร์รี่ที่กำลังจะหมดอายุ พร้อมสอดแทรกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสินค้าลดราคา เพื่อส่งต่อและถ่ายทอดมุมมองใหม่ที่มีต่อสินค้า และสร้างแรงบันดาลใจในการเป็น Food Hero ให้กับผู้ชมดังกล่าวให้กับผู้ชม สามารถรับชมคลิป Tops Food Hero ได้ทาง Tops TV (https://www.youtube.com/watch?reload=9&feature=shared&v=EoAsuCnzdrE)

            “ท็อปส์ยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวเราไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพังแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรในทุกภาคส่วน โดยเราเชื่อในพลังฮีโร่ที่อยู่ในตัวของลูกค้าทุกคนว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ช่วยกอบกู้โลกใบนี้จากสถานการณ์ขยะอาหารล้นโลกที่กำลังเผชิญ เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ขึ้นและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนในเจเนอเรชันถัดไป” นายสเตฟาน คูม กล่าวทิ้งท้าย

 ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

          




















 

#Tops #EveryDayDISCOVERY

###

 

 

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,759 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต เรฟ รันเนอร์ และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad