เพราะรถก็ต้องการการดูแลไม่แพ้คน! เจาะกลยุทธ์แบรนด์เลิฟ “#ออโต้วัน ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล” กับกลยุทธ์ 4C “เพราะเราดูแลทุกคันใส่ใจทุกคน
กรุงเทพฯ 29 กุมภาพันธ์ 2568 – ในปี 2568 ผู้คนเริ่มมองว่ารถยนต์คือ "สมาชิกในครอบครัว" ที่ต้องการการดูแลไม่ต่างจากคน โดยพฤติกรรมผู้บริโภคชี้ให้เห็นว่าการดูแลรถยนต์เริ่มมีสำคัญขึ้นอย่างมาก จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศ มีแนวโน้มหดตัว 5.4% ต่อเนื่องจากปี 2567 ที่หดตัวถึง 27.8% จากยอดขายรถป้ายแดงที่มีการหดตัว จึงทำให้เทรนด์ในการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์กลับได้รับความสนใจจากผู้บริโภคต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมในการดูแลบำรุงรักษารถยนต์คันเดิมด้วยความใส่ใจมากขึ้น
#ออโต้วัน (#AUTO1) #ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และพร้อมยกระดับการบริการ เพื่อช่วยให้รถยนต์คู่ใจของลูกค้าได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ภายใต้กลยุทธ์ 4C ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ทั้งคุณภาพบริการที่มอบความสะดวกสบาย และยึดมั่นการใส่ใจในทุกมิติ จนทำให้ ออโต้วัน เป็นหนึ่งแบรนด์เลิฟ ที่เจ้าของรถต้องนึกถึงทุกครั้ง เมื่อต้องการการดูแลอย่างมืออาชีพ
C1 - Commitment วิเคราะห์เครื่องมือที่ทันสมัยก่อนนำเสนอบริการ ด้วยทีมงานมืออาชีพ
ออโต้วันพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้เชี่ยวชาญผ่านการอบรมจาก Training Hub พร้อมให้คำแนะนำและวิเคราะห์ปัญหาการใช้งานของรถยนต์ ในทุกครั้งที่ลูกค้าเข้ารับบริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนการดูแลรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
C2 - Community Care: สร้างความสัมพันธ์กับชุมชนด้วยใจบริการ
ออโต้วันปลูกฝังแนวคิด Neo-Altruism กระตุ้นให้มีจิตสาธารณะ เล็งเห็นความสำคัญในการให้บริการช่วยเหลือชุมชน พนักงานออโต้วันทุกคนพร้อมให้บริการฟรี ถึงแม้จะยังไม่ใช่ลูกค้าของเรา โดยมอบบริการฟรี อาทิเช่น ตรวจเช็กรถยนต์ 38 รายการฟรี ปะยางฟรี เติมลมยางไนโตรเจนฟรี ให้บริการช่วยเหลือเบื้องต้นภายในรัศมี 10 กิโลเมตรจากศูนย์บริการออโต้วันฟรี แนวคิดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการต่อลูกค้าและชุมชน พร้อมบรรเทาปัญหาในยามฉุกเฉิน สะท้อนความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนชุมชนอย่างแท้จริง
C3 - Connectivity: เชื่อมต่อทุกการบริการด้วยเทคโนโลยี
ออโต้วันนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าผ่านระบบ Omnichannel Service เช่น การบันทึกประวัติบริการผ่าน Service แท็บเล็ต การใช้งาน Auto1 แอปพลิเคชัน เพื่อจองคิว นัดหมายเข้ารับการบริการ และระบบการแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่าน AI Personalized ซึ่งนวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวก แต่ยังสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่ารถยนต์ได้รับการดูแลตรงตามเวลาและมาตรฐาน นอกจากนี้ ออโต้วันยังรองรับบริการสำหรับรถยนต์ HEV, PHEV และ EV เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับยุคใหม่ของการขับขี่
C4 - Convenience: สะดวกสบายครบจบในที่เดียว
ออโต้วันเพิ่มความสะดวกสบายให้คนรักรถในทุกพื้นที่ ด้วยการขยายสาขาปีละ 20 สาขา และตั้งเป้าครอบคลุม 100 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2570 นอกจากนี้ ทุกการรับบริการในออโต้วัน จะได้สะสมคะแนน The1 โดยสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดสินค้าและบริการได้ทั่วในเครือเซ็นทรัล นอกจากนี้ยังเพิ่มสิทธิพิเศษจากพันธมิตรบัตรเครดิต เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการที่สะดวก และเติมความประทับใจในทุกจุดบริการ พร้อมมุ่งสร้างความประทับใจในฐานะแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบและไว้วางใจ
นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ ผู้บริหารออโต้วัน กล่าวว่า “ออโต้วัน พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจเจ้าของรถในทุกสถานการณ์ ด้วยบริการที่ครบครันและนวัตกรรมล้ำสมัย” ในยุคที่เศรษฐกิจยังคงซบเซา การหันมาดูแลรถยนต์เดิม แทนการซื้อใหม่ จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับเจ้าของรถ เราจึงให้ความสำคัญและมองว่ารถยนต์ของลูกค้าไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เป็นส่วนหนึ่งในไลฟสไตล์ของเจ้าของรถทุกคน ที่นอกจากจะพาไปถึงจุดหมายทุกแห่งอย่างปลอดภัยแล้ว ยังมีคุณค่าต่อจิตใจด้วย ดังนั้น ออโต้วันจึงมุ่งมั่นเป็นมากกว่าศูนย์บริการรถยนต์ แต่คือเพื่อนคู่ใจที่พร้อมเดินเคียงข้างในทุกสถานการณ์ ตามสโลแกนที่ว่า ออโต้วันดูแลทุกคัน ใส่ใจทุกคน “Your car we care”
นอกจากนี้ ออโต้วันมุ่งเน้นการดูแลที่ครอบคลุมมากกว่ารถยนต์ พร้อมเคียงข้างชุมชนในทุกสภาวะเศรษฐกิจ มอบสิทธิประโยชน์พิเศษ สำหรับทุกการซื้อสินค้าและบริการจากออโต้วัน จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแคมเปญ “Easy e-Receipt 2.0” ช่วยให้ลูกค้าสามารถนำยอดซื้อไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 35% พร้อมรับส่วนลดพิเศษและแลกแต้ม The1 เพิ่มได้ถึง 40% ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568
ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม และโปรโมชั่นดีๆ จากออโต้วัน ได้ที่ www.auto1.co.th Facebook Fanpage : Auto1 Thailand หรือ โทร. 02 103 3999
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,759 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต เรฟ รันเนอร์ และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น