เปิด 5 เกร็ด #ประวัติตรุษจีน ที่อ่านจบภายใน 5 นาที ฉบับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ต้อนรับ #ปีงูไฟ - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ดารา บันเทิง ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีAi ข่าวธุรกิจ888 cyberainews by chokweekly chokcyberai

Post Top Ad

14 มกราคม 2568

เปิด 5 เกร็ด #ประวัติตรุษจีน ที่อ่านจบภายใน 5 นาที ฉบับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ต้อนรับ #ปีงูไฟ

 เปิด 5 เกร็ด #ประวัติตรุษจีน ที่อ่านจบภายใน 5 นาที ฉบับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ต้อนรับ #ปีงูไฟ

 

#เทศกาลตรุษจีน มรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของโลก และ #ขุมทรัพย์แห่งความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการจับจ่ายทุกไตรมาส แต่นอกจากในแง่มุมของประเพณี พิธีกรรม และการเฉลิมฉลองอันเลื่องชื่อของโลกนี้ คุณรู้จัก #ตรุษจีน ดีแค่ไหน? ท็อปส์ จึงจับมือกับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน หรือ เฮียวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย และพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแคมเปญ TOPS THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 พาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปยังช่วงก่อกำเนิดวัฒนธรรมจีน มาดูกันว่าเทศกาลตรุษจีนมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และหลากหลายกิจกรรมที่นิยมทำกันในวันตรุษจีน แฝงความหมายสำคัญเอาไว้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ขอเวลาแค่ 5 นาที ออกสตาร์ทแล้วลุยกันเลย!

 

#ทำไมปีใหม่ของคนจีนไม่ใช่วันที่1มกราคม

ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน หรือ เฮียวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เล่าถึงความเป็นมาของตรุษจีน หรือ ปีใหม่ของชาวจีนว่า หลายคนมักถามผมเสมอว่า ทำไมคนจีนจึงไม่กำหนดให้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันตรุษจีนเหมือนวันปีใหม่สากล ผมตอบง่าย ๆ ครับว่า เพราะวันที่ 1 มกราคม คือวันเริ่มต้นปีที่นับตามปฏิทินแบบสุริยคติ (Gregorian Calendar) แตกต่างกับปฏิทินแบบจันทรคติ (Lunar Calendar) ที่ชาวจีนยึดถือ ซึ่งปฏิทินแบบจันทรคตินี้ จะกำหนดให้วันเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิเป็นวันแรกของปี สังคมจีนที่ให้ความสำคัญกับฤดูกาลเพาะปลูก จึงปักหมุดหมายให้การมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ในภาษาจีนเรียกว่า ชุนเจี๋ย (春节) เป็นวันเริ่มต้นศักราชใหม่ของพวกเขาครับ


เปิดที่มาของ ตรุษจีน #เทศกาลแห่งความกตัญญูกตเวที

ดร.วิทย์ กล่าวต่อว่า ในอดีตโลกมนุษย์ของเราอิงกับฤดูกาลมาตลอด และสังคมส่วนมากก็เป็นสังคมเกษตรกรรม สังคมจีนก็เช่นเดียวกัน ตรุษจีนถือกำเนิดขึ้นโดยเชื่อมโยงกับฤดูกาลเพาะปลูก หรือวันเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิเป็นวันแรกของปี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เชื่อมโยงกับความเป็นสิริมงคล คำถามต่อมาก็คือ แล้วอะไรล่ะที่จะแสดงถึงความเป็นสิริมงคล? คงต้องย้อนกลับไปมองที่ปรัชญาในการใช้ชีวิตของชาวจีนอย่างหลักขงจื๊อ หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า หยูเจีย (儒家) โดยหนึ่งในค่านิยมของปรัชญาขงจื๊อ ก็คือการแสดงความกตัญญูกตเวที ชาวจีนจึงถือว่าการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เป็นสิ่งมงคลที่ต้องทำในวันตรุษจีน และนอกเหนือจากการแสดงความเคารพต่อบุพการี ยังต้องเสริมความมั่งมีศรีสุขให้กับชีวิตด้วย จึงมีการกราบไหว้เทพเจ้าเพิ่มเข้าไป ซึ่งเทพเจ้าที่คนจีนนิยมสักการะกันมากในเทศกาล ก็คือ #เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี๊ย (财神爷) เทพเจ้าแห่งโชคลาภนั่นเอง

 


ถอดรหัส #ของไหว้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในวันตรุษจีน

พูดถึงการเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้าแล้ว อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ ของไหว้ หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าคนจีนมีวิธีการเลือกของเซ่นไหว้อย่างไร คำตอบก็คือวิธีคิดเชิงกุศโลบายที่ซ่อนอยู่ในสิ่งของเหล่านั้น เป็นต้นว่า สิ่งก็ตามที่ลักษณะแสดงถึงความเป็นมงคล เช่น ตำลึงเงิน ตำลึงทอง หรือสิ่งใดก็ตามที่แสดงถึงความยืนยาว เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ก็จะถูกนำมาใช้เป็นของไหว้  และนอกจากลักษณะภายนอกแล้วชาวจีนยังมีการใช้คำพ้องเสียงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลเช่นกัน เช่น ส้ม ภาษาจีนเรียกว่า เฉิง (橙) พ้องเสียงกับคำว่า เฉิงกง (成功) ที่แปลว่าสำเร็จ ปลา ภาษาจีนเรียกว่า ยวี๋ () พ้องเสียงกับคำว่า ยวี๋ (余) ที่แปลว่าเหลือกิน เหลือใช้ หรือ แอปเปิ้ล ภาษาจีนเรียกว่า ผิงกั่ว (苹果) ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า ผิงอัน ( 平安 ) ที่แปลว่าปลอดภัย เป็นต้น

 

#อั่งเปาสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง พร้อมกับความหมายที่ซ่อนอยู่

เมื่อพูดถึงวันตรุษจีน สิ่งแรกที่คนจะนึกถึงเลยก็คือการให้อั่งเปา เพราะนอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ (มนุษย์กับฤดูใบไม้ผลิ) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาแห่งการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองด้วย วิธีคิดที่มาคู่กับความกตัญญูกตเวที ก็คือการจุนเจือบริวาร คนที่เป็นผู้ใหญ่ สามารถหารายได้ด้วยตัวเองได้แล้ว จึงนิยมมอบอั่งเปาให้กับบริวาร อาจเป็นลูกหลาน หรือผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อเป็นจรรโลงจิตใจให้ลดความตระหนี่ อย่างไรก็ดี กุศโลบายคำพ้องเสียงสะท้อนความเป็นมงคลก็ถูกนำมาใช้กับการให้อั่งเปาเช่นกัน ชาวจีนจึงไม่นิยมให้อั่งเปาตามจำนวนเงินที่มีเลข 4 เนื่องจากในภาษาจีน คำว่า ซื่อ (四) ที่แปลว่า 4 ออกเสียงคล้ายคำว่า สื่อ (死) ซึ่งมีความหมายไม่เป็นมงคล นอกจากนี้ ชาวจีนยังเชื่อในเลขคู่ ทำอะไรให้ทำเป็นคู่ เวลาให้อั่งเปา จึงนิยมให้เป็นเลขคู่

 

เปิดตำราส่องเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย

องค์ประกอบต่าง ๆ ในเทศกาลตรุษจีน ทั้งการ #กราบไหว้บรรพบุรุษ #การบูชาเทพเจ้า #ของไหว้ และ #อั่งเปา ล้วนเป็นแนวปฏิบัติดั้งเดิมที่มาจากชาวจีน ที่ถูกส่งต่อมายังประเทศไทย เนื่องจากแผ่นดินของเราโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม และมีสัดส่วนของ หัวเฉียว(华侨)หรือชาวจีนโพ้นทะเลที่กระจายไปอยู่ตามประเทศต่าง ๆ หลากหลายชาติพันธุ์ ทั้งจีนแต้จิ๋ว จีนกวางตุ้ง จีนฮกเกี้ยน และไหหลำ ฯลฯ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ใดก็ตาม พวกเขาก็ยังคงยึดถือในวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม ทั้งนี้ ด้วยความที่ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ เรามีพืชพรรณธัญญาหารมากมาย คนเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในไทยจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน โดยนิยมไหว้หมู เห็ด เป็ด ไก่ พร้อมด้วยผลไม้และของมงคลต่าง ๆ อย่างเต็มที่ การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในไทยจึงยิ่งใหญ่ และเป็นที่นิยมไม่แพ้ต้นอารยธรรมอย่างจีนแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียว


ตรุษจีนวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ในมุมมองของดร. วิทย์

จุดเริ่มต้นของเทศกาลตรุษจีน มาจากการเฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งการเพาะปลูก ก่อนเติมเต็มด้วยความเชื่อและค่านิยมมากมาย จนกลายเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ดังนั้นหากจะถามว่าตรุษจีนวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าเทศกาลนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่อาจมีวิวัฒนาการเพิ่มเติมไปตามยุคสมัย เช่น บางคนไม่ทานเนื้อสัตว์ ในอนาคตอาจมีคนคิดทำชุดของไหว้แบบมังสวิรัติ หรือบางคนก็เริ่มคิดในเชิง Practical มากขึ้น ว่าของไหว้ที่ถวายเทพเจ้าไปแล้วจะนำไปใช้ทำอะไรต่อ ของไหว้ก็อาจจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นของที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อได้มากขึ้น


แต่ไม่ว่าในวันข้างหน้า วิวัฒนาการของตรุษจีนจะเป็นอย่างไร แก่นสารของเทศกาลตรุษจีนก็ยังคงเป็นเช่นเดิม คือการแสดงความเคารพต่อธรรมชาติและบรรพบุรุษ และแม้ปัจจุบัน จีนจะส่งจรวดไปสำรวจดาวอังคารได้แล้ว แต่ชาวจีนก็ยังให้ความสำคัญกับรากเหง้าของตน และยังคงประกาศว่าวันหยุดแห่งชาติคือเทศกาลตรุษจีนดังเช่นในอดีตครับ

 

อิ่มเอมกับประวัติศาสตร์แดนมังกร พร้อม #ฉลองตรุษจีนปีมหามงคล ด้วยสินค้าพรีเมียมจากท็อปส์

ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้น่าสนใจจาก ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ที่จะทำให้คุณรู้จักกับตรุษจีนในมุมใหม่ และเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น อ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าลืมเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูไฟ ด้วยสินค้าเสริมศิริมงคลสุดพิเศษจากท็อปส์แบบครบครัน อาทิ ชุดเครื่องไหว้เซตมงคลอาหารทะเลพรีเมี่ยม รวม 5 ชนิด กุ้งล็อบสเตอร์ หอยเป๋าฮื้อ ปลากระพงแดง ปลาหมึกทาโกะ และกุ้ง มีจำหน่ายเฉพาะที่ท็อปส์ เซตไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษ ผลไม้สดใหม่ที่แฝงความหมายลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นส้ม แอปเปิ้ล สาลี่ เมล่อนสลักอักษรมงคล ฯลฯ และขนมมงคล อาทิ มายชอยส์ปุยฝ้าย ซิ้วท้อมงคล ขนมเข่งเทียน และขนมเข่ง รวมถึงของตกแต่งตามเทศกาลอีกมากมาย คัดสรรโดยอิงจากอินไซด์จริงของนักช้อปช่วงตรุษจีน พร้อมโปรโมชันที่ให้คุณจัดเตรียมเครื่องไหว้สุดพิเศษได้ก่อนใคร เพียงสั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับไหว้ตรุษจีน ตั้งแต่วันนี้ -24 ม.ค. 68 ครบ 1,500 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับทันที ท้อปส์ Gift Voucher มูลค่า 150 บาท ที่ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด / ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ หรือ สั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับไหว้ตรุษจีน ครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 100 บาท ที่ท็อปส์ เดลี่  เสริมทัพความุค้มด้วยอั่งเปาจากท็อปส์ เพียงช้อปที่ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด / ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ครบทุกๆ 600 บาท หรือช้อปที่ท็อปส์ เดลี่ ครบทุกๆ 100 บาท ก็รับอั่งเปาได้ทันที! นอกจากนี้ ลูกค้าที่มียอดจับจ่ายสินค้าตรุษจีนสูงสุด (Top Spenders) รับสิทธิ์ลงทะเบียนเข้าร่วม เอ็กซ์คลูซีฟทริป กับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน พรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ที่จะพาผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านไปดื่นด่ำกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตรุษจีน ตลอดทริป





มาเปิดประตูสู่สิ่งดี ๆ ต้อนรับศักราชใหม่ไปด้วยกัน ที่ #ท็อปส์ #ท็อปส์ฟู้ดฮอลล์ และ #ท็อปส์เดลี่ ทุกสาขา ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

 

 

#Tops #EveryDayDISCOVERY

###

 

 

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,759 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต เรฟ รันเนอร์ และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad