#ร้านอาหารอยู่รอด = #สังคมอิ่มสุข #KCG จับมือ #กทม. เปิดโครงการ “#จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2” คัมแบ็ก! เสิร์ฟความรู้และแรงบันดาลใจเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหารตัวเล็กโดยกูรูตัวจริง

 #ร้านอาหารอยู่รอด = #สังคมอิ่มสุข  #KCG จับมือ #กทม. เปิดโครงการ “#จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2” คัมแบ็ก!  เสิร์ฟความรู้และแรงบันดาลใจเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหารตัวเล็กโดยกูรูตัวจริง

 

วงการร้านอาหารและเบเกอรี่เตรียมเฮ! #KCG ผนึกกำลัง กรุงเทพมหานคร เปิดตัวโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2” กลับมาอีกครั้งเพื่อติดอาวุธให้กับเจ้าของร้านอาหารตัวเล็กที่ต้องการเติบโตและปรับตัวในยุคที่ไลฟ์สไตล์การกินเปลี่ยนไปทุกวันโดยผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ

               นายธวัช ธีระนุสรณ์กิจ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย กล่าวว่า “จุดไฟปรุงฝัน ไม่ใช่แค่การสอนทำอาหาร แต่ คือเวิร์กชอปการทำอาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแนวคิดการทำร้านอาหารให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน พร้อมกลยุทธ์การตลาดที่ทำให้ร้านของคุณอยู่รอดและเติบโตได้จริงในยุคปัจจุบัน”

 

            เพราะร้านอาหารที่ดี = สังคมที่อิ่มสุข

          “ร้านอาหารไม่ได้เป็นแค่ธุรกิจ แต่คือส่วนสำคัญของสังคม” เพราะทุกมื้ออาหารที่ดี คือความสุขของลูกค้า และทุกร้านที่อยู่รอดคือการที่เศรษฐกิจเดินหน้า ดังนั้นในยุคที่พฤติกรรมการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการต้อง ปรับตัวให้ไว และใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน KCG จึงเดินหน้าผลักดันโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน” ให้เป็นมากกว่าแค่คอร์สสอนทำอาหาร แต่เป็น Community ที่ช่วยให้ร้านเล็กๆ ได้มีโอกาสเติบโตไปด้วยกัน

 

               “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2” เสิร์ฟครบทั้งอาหาร ธุรกิจ และการเงิน 3 แกนหลักที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด จากทีมเชฟระดับแนวหน้าและกูรูด้านต่างๆ ของเมืองไทย

• อาหาร  เพื่อครีเอทเมนูให้มีเอกลักษณ์ ปั้น Signature Menu มัดใจลูกค้า
  • วิลแมน ลีออง (เชฟวิลแมน) เชฟที่ปรึกษา และ KCG Ambassador Chef
  • ชัชชญา รักตะกนิษฐ (เชฟบิ๊บ) KCG Ambassador Chef และผู้อำนวยการ KCG Creative Center 
  • พัทธนันท์ ธงทอง (เชฟเมย์) KCG Ambassador Chef
  • พสิษฐ์ เลิศธนาภรสิทธิ์ (เชฟต่อ) เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารตะวันตกจาก KCG
  • นรเศรษฐ จันทร์ผ่องแสง (เชฟอู๊ด) เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านขนมและเบเกอรี่จาก KCG
  • จุฑารัตน์ โพธิ์ชนะพันธ์ (เชฟไก่) เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านขนมและเบเกอรี่จาก KCG
  • วาทิศ สนิทวรรณะ (เชฟเซ้นส์) เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านขนมและเบเกอรี่จาก KCG
• ธุรกิจ การทำแบรนด์ดิ้ง และใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ดันร้านให้ดัง ผ่าน TikTok และ Social Media ช่องทางต่างๆ
  • คุณบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ อดีตผู้บริหารด้านการตลาดบริษัท Food Passion และผู้ก่อตั้ง บริษัท ปีติ พีอาร์ จำกัด
  • คุณชาญวิทย์ กิ่งเทียน และ คุณสมาธิญา แซ่ตั้ง ผู้ก่อตั้ง Pa-D Digital
• การเงิน  เสริมความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานการเงินเพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดย
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

พร้อมไขความลับที่จะช่วยให้ร้านของคุณไปได้ไกล ผ่านกุญแจ 5 ดอก

กุญแจดอกที่ 1 เสริมความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานการเงินเพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจที่แข็งแกร่ง
กุญแจดอกที่ 2 การตลาดสำหรับธุรกิจอาหาร
กุญแจดอกที่ 3 การตลาดออนไลน์
กุญแจดอกที่ 4 แอปพลิเคชันการเงิน ผู้ช่วยร้านค้าตัวจริง โดย SCB
กุญแจดอกที่ 5 การจัดการในห้องครัว (Kitchen Management)

               “KCG มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาสังคม ผ่านการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็กและส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารให้เติบโตอย่างยั่งยืน โครงการ “จุดไฟปรุงฝัน” จะเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจอาหารรายเล็กได้ก้าวไกลและยืนหยัดในตลาดอย่างมั่นคงเพราะ KCG เชื่อว่า ร้านอาหารที่แข็งแรง = สังคมที่อิ่มสุข อยากชวนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเปลี่ยนแปลงไปกับ KCG” นายธวัชกล่าว

            ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมของ KCG ได้ที่ www.kcgcorporation.com/

#KCG #KCGCorporation #จุดไฟปรุงฝัน #KCGมีดีมากกว่าคุกกี้กล่องแดง

 

 

 

เกี่ยวกับบริษัท KCG

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG คือ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ 2501 โดยคุณวิจัย วิภาวัฒนกุลและน้องชายคือ คุณตง ธีระนุสรณ์กิจ จากเดิมใช้ชื่อว่า “กิมจั๊วพาณิชย์”  ซึ่งมีแบรนด์สินค้าที่อยู่คู่ประเทศไทยมานาน อาทิ ‘อิมพีเรียล’  คุกกี้กล่องแดง, ‘อลาวรี่’  แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนย และชีส ยอดขายอันดับ 1 ยาวนานถึง 8 ปีซ้อน, ‘ซันควิก’  น้ำผลไม้เข้มข้น
จากธรรมชาติ ยอดขายในไทยกว่า 800,000 ขวด ต่อปี

ในช่วงแรกเริ่มดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ จนมาถึงปัจจุบัน
ได้มีการพัฒนาจนธุรกิจเติบโต กลายเป็นทั้งผู้นำเข้า ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ทั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
ในกลุ่มสินค้าประเภท เนยและชีส ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบอาหารและเบเกอรี รวมถึงธุรกิจผลิตภัณฑ์บิสกิตหรือขนมสําเร็จรูปต่าง ๆ
อาทิ คุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่ สําเร็จรูป มากกว่า 2,000 สินค้าภายใต้บริษัทฯ

และบริษัทได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนและได้รับการอนุมัติเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมาย เป็นองค์กรที่สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้กับการรับประทานอาหาร ที่ทุกคนทำงานด้วยใจรัก
ในศาสตร์และศิลปะของอาหาร และความเป็นมืออาชีพ