#ไทวัสดุ และ #บีเอ็นบีโฮม ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล ตอกย้ำต้นแบบ #ธุรกิจฮาร์ดไลน์สีเขียว จับมือ 6 แบรนด์สินค้าเพื่อบ้านชั้นนำ ขับเคลื่อนกลุ่มสินค้า Hug The Earth รองรับเทรนด์ “#GreenHousing” ลดร้อน ฟอกอากาศ ประหยัดพลังงาน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเพื่อคนรักษ์โลก ช้อป 10,000 คืน 1,000 - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ดารา บันเทิง ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีAi ข่าวธุรกิจ888 cyberainews by chokweekly chokcyberai

Facebook CyberAi news

Post Top Ad

05 มีนาคม 2568

#ไทวัสดุ และ #บีเอ็นบีโฮม ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล ตอกย้ำต้นแบบ #ธุรกิจฮาร์ดไลน์สีเขียว จับมือ 6 แบรนด์สินค้าเพื่อบ้านชั้นนำ ขับเคลื่อนกลุ่มสินค้า Hug The Earth รองรับเทรนด์ “#GreenHousing” ลดร้อน ฟอกอากาศ ประหยัดพลังงาน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเพื่อคนรักษ์โลก ช้อป 10,000 คืน 1,000

 #ไทวัสดุ และ #บีเอ็นบีโฮม ในเครือ #เซ็นทรัลรีเทล ตอกย้ำต้นแบบ #ธุรกิจฮาร์ดไลน์สีเขียว  จับมือ 6 แบรนด์สินค้าเพื่อบ้านชั้นนำ ขับเคลื่อนกลุ่มสินค้า Hug The Earth รองรับเทรนด์ “#GreenHousing”  ลดร้อน ฟอกอากาศ ประหยัดพลังงาน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเพื่อคนรักษ์โลก ช้อป 10,000 คืน 1,000

 

กรุงเทพฯ 4 มีนาคม 2568 – บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน แบรนด์ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลัง 6 แบรนด์พันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ COTTO, JOTUN, BEKO, JBP, Haier และ Gyproc ร่วมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากสิ่งแวดล้อม ภายใต้แคมเปญ “ฮักโลก” (Hug The Earth) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการพลังงาน หอการค้าไทย ร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายพันธมิตร เพื่อกระตุ้นเทรนด์ที่อยู่อาศัยสีเขียว ตามที่ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญในการใช้สินค้า และวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสอดรับกับเทรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกเกือบ 70% มุ่งหวังให้ภาคธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ เป็นผู้นำการเปลี่ยนปแลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญ Green Housing


นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล  รีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮมให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยส่งเสริมทั้งพนักงานในองค์กร และคู่ค้าให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมสนับสนุนสินค้าและบริการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมด้านความยั่งยืน โดยภายใต้เป้าหมายดังกล่าวได้มีการยกะดับตลาดวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านเข้าสู่ยุคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินความร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายเดียวกัน เพื่อหนุนผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่สอดรับกับ Pain point ทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความต้องการของบริโภคในหลากหลายกลุ่มที่หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมถึงลดปริมาณการใช้ทรัพยากร

 










ในฐานะผู้ให้บริการหลักในตลาด และบีเอ็นบี โฮม พบว่าเทรนด์การตกแต่งบ้านในปีนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดีไซน์ที่ควบคู่ไปกับการใช้วัสดุต่างๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ภาคธุรกิจต่างปรับการออกสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับลูกค้าสายรักษ์โลกที่มีมากขึ้น อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวดิ่งที่มุ่งนำเสนอนวัตกรรมที่อยู่อาศัยแบบประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างและการตกแต่งที่ช่วยป้องกัน - ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ฯลฯ โดยล่าสุด กลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล ยังขานรับกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น โดยร่วมกับหอการค้าไทยเปิดตัวสัญลักษณ์ฮักโลกในโครงการ Hug The Earth เพื่อนำเสนอกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้สามารถเลือกซื้อสินค้ากลุ่มรักษ์โลกได้อย่างสะดวก ตลอดจนสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ยั่งยืนให้มีจำนวนมากขึ้นในอนาคต

“ไทวัสดุเป็นอีกหนึ่งในผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการ Hug The Earth โดยร่วมกับ 6 แบรนด์พันธมิตร (ระยะที่ 1) นำสินค้านวัตกรรมรักษ์โลกจัดจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรดไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม ทุกสาขาทั่วไทย ได้แก่ 

แบรนด์ คอตโต้ (COTTO) สินค้าสุขภัณฑ์ และกระเบื้อง COTTO Eco Collection กระเบื้องเซรามิก แนวคิด “Zero Waste” ที่มีการนำวัตถุดิบที่เหลือทิ้งเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่

แบรนด์โจตัน (JOTUN) สีพรีเมียม ‘มาเจสติก เซนส์’ ปลอดภัยต่อสุขภาพ ด้วย Clean Air Technology ที่ช่วยฟอกอากาศภายในบ้านให้สะอาด และเพิ่มคุณภาพอากาศภายในบ้าน หายใจได้อย่างสะดวก ไร้กลิ่นรบกวน 

แบรนด์เจบีพี (JBP) แบรนด์ เจบีพี (JBP) สีทาอาคารคุณภาพสูง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบรรจุในถังที่ผลิตจากพลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled Plastic)
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดปริมาณขยะพลาสติก

แบรนด์เบโค (Beko) ผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านคุณภาพมาตรฐานยุโรปที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นพันธกิจหลัก โดยมีการคิดค้นพัฒนาต่อยอดจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่าง แกลบ มาผสมกับเม็ดพลาสติกโพลิโรพิลีน (PP) นำไปใช้แทนการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในตู้เย็น 

แบรนด์ไฮเออร์ (Haier) เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยาแอร์ R32 ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก และมี Eco Mode โหมดประหยัดพลังงาน 

และแบรนด์ยิปรอค (Gyproc) แผ่นยิปซั่มที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลจาก CDW (Contruction Demolished Waste) และสามารถนำแผ่นยิปซั่มมารีไซเคิลได้อีก ซึ่งเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการใช้พลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายจากแบรนด์ดัง รับรองด้วยฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า หรือผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น เตารีด เตาไมโครเวฟ พัดลม ฯลฯ รวมถึง

ผลิตภัณฑ์ระบบโซล่าเซลล์ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพสูง ในราคาคุ้มค่า พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้ารักษ์โลก เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนไทยหันมาเลือกใช้สินค้าที่ดีต่อโลกและสุขภาพมากขึ้น โดยจะได้พบกับความคุ้มค่าถึง 4 ต่อ คือ  ต่อที่ 1  ซื้อสินค้าครบทุก 3,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรี 1 สิทธิ์ชิงโชค ร่วมลุ้นรับทองคำแท่งหนัก 30 บาท และของรางวัลอื่นๆมูลค่ารวมกว่า 1,500,000 บาท* ต่อที่ 2 ซื้อสินค้าโครงสร้าง สินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า ครบทุก 5,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรีคูปองส่วนลด 500 บาท และซื้อครบทุก 10,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรี คูปองส่วนลด 1,000 บาท*  ต่อที่ 3 ซื้อสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า ครบ 35,000 บาทขึ้นไป รับเพิ่มบัตรกำนัลเงินสดสูงสุด 28,000 บาท* ต่อที่ 4 สะสมยอดซื้อทั้งร้าน (สินค้าโครงสร้าง สินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า) รับบัตรกำนัลเงินสดและบัตรกำนัลทองคำมูลค่าสูงสุด 150,000 บาท* พิเศษ! สมาชิก The1 แลกคะแนนสุดคุ้ม ส่วนลดสูงสุด 14%  ใช้คะแนน 1,400 บาท แลกส่วนลด 200 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 มี.ค.2568 

* โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด” 

“ ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ได้ยึดหลักปรัชญาการดำเนินธุรกิจ CRC CARE ในด้าน Care for the Environment โดยการลงทุนและทุ่มเทให้เป็นธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านรายแรกที่ปรับเปลี่ยนระบบขนส่งมาสู่ รถรรทุกพลังงานไฟฟ้ากรีนโลจิสติกส์ ที่สามารถลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 900 ตันต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 21,000 ต้น รวมถึงการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในร้านไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม ไปแล้วกว่า 90 สาขา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้าพลังงานไฟฟ้า ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำให้ซีอาร์ซี ไทวัสดุเป็นกลุ่มธุรกิจรีเทลฮาร์ดไลน์สีเขียวชั้นนำควบคู่กับการสร้างความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” 

ติดตามโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์สุดคุ้มมากมายจากไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม ได้ที่ www.thaiwatsadu.com, Line : @Thaiwatsadu , Facebook: Thai Watsadu และ BnB home: www.bnbhome.com , Line : @bnbhometh , Facebook: BnB home หรือโทร 1308

 

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,759 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต เรฟ รันเนอร์ และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad