#KCG เปิดเกมรุกตลาด #B2B2C ธุรกิจคาเฟ่ ยกระดับสู่ “#คู่คิดธุรกิจกาแฟ” เผย 4 Insights เพื่อผู้ประกอบการ
บริษัท #เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ #KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ เดินหน้ารุกตลาดคาเฟ่ ต่อยอดจากจุดแข็งในธุรกิจอาหารและเบเกอรี่มากว่า 67 ปี ด้วยกลยุทธ์ใหม่
การขยายบทบาทสู่ “คู่คิดธุรกิจคาเฟ่” ภายใต้แนวคิด “KCG is Your Coffee Companion” พร้อมยกระดับ
การทำธุรกิจคาเฟ่ให้ประสบความสำเร็จกลายเป็นเรื่องง่าย ผ่านงาน Thailand Coffee Fest 2025 ด้วยการสนับสนุนธุรกิจคาเฟ่ ในหลายมิติ ตั้งแต่ไอเดียเมนู วัตถุดิบ ไปจนถึงการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเจาะตลาด B2B2C รับการเติบโตของธุรกิจคาเฟ่และร้านเครื่องดื่มในประเทศไทย ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 84,200 ล้านบาท และเติบโตขึ้น 1.9% จากปีก่อนหน้า
นายธวัช ธีระนุสรณ์กิจ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG กล่าวว่า “จากข้อมูลการเติบโตของตลาดกาแฟไทยในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดยังคงมีศักยภาพสูงและมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดร้านเครื่องดื่มซึ่งรวมคาเฟ่และเบเกอรี่ จะขยายตัวแตะ 84,200 ล้านบาท ข้อมูลจาก XMAP (2024) รายงานจำนวนผู้ประกอบการ ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีร้านอาหาร คาเฟ่ และเบเกอรี่รวมกันมากกว่า 402,793 แห่ง และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 ยังมีการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่
ถึง 973 ราย ซึ่งมากติดอันดับ 1 ใน 5 ของกิจการที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่ในทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่สูง แต่ในขณะเดียวก็เป็นโอกาสที่ท้าทายของผู้เล่นรายใหม่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น KCG ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบอาหารและเบเกอรี่มากว่า 67 ปี มองเห็นจุดเชื่อมสำคัญในการเข้ามาเป็นพันธมิตรของร้านคาเฟ่ ด้วยแนวคิด “KCG is Your Coffee Companion” หรือ “คู่คิดธุรกิจคาเฟ่” ผ่านวัตถุดิบเบเกอรี่และเครื่องดื่ม ที่ต้นทุนคุ้มค่า และยังคงคุณภาพดีที่สามารถประยุกต์ พร้อมสร้างสรรค์เมนูได้หลากหลาย อีกทั้งมีบริการสนับสนุนหลังบ้านที่เป็นผู้ช่วยผู้ประกอบการอย่างแท้จริง และได้ถอดรหัส 4 Insights สำคัญของผู้ประกอบการเพื่อเป็นสูตรลัดในการทำธุรกิจ
4 Insights ผู้ประกอบการคาเฟ่
1. ต้องการความแตกต่าง ในตลาดที่แข่งขันสูง
คุณภาพของสินค้าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจคาเฟ่ ผลิตภัณฑ์และบริการต้องมีความโดดเด่นและแตกต่าง เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่เกิดขึ้นใหม่ได้ทุกวัน ดังนั้น วัตถุดิบที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายที่สามารถนำมารังสรรค์เป็นเมนูต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ
2. ต้องการรักษาคุณภาพให้เสิร์ฟได้เหมือนกันทุกวัน ทุกสาขา
การรักษามาตรฐานการบริการให้สม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อมีการขยายสาขา การควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดผ่านการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) และการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ จะช่วยให้มั่นใจว่าอาหารและเครื่องดื่มที่เสิร์ฟมีมาตรฐานเดียวกัน
3. ต้องการควบคุมต้นทุนและลดภาระแรงงาน ลดต้นทุนพื้นที่สต็อกสินค้า
ความท้าทายจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟและนม ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีก
ในปี 2025 ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลกำไร นอกจากนี้ ภาระด้านแรงงานและค่าใช้จ่าย
ในการจัดเก็บสต็อกสินค้าก็เป็นปัจจัยสำคัญที่กัดกินกำไร การบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม การลดของเสีย และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรักษาระดับความสามารถในการทำกำไร
และความยั่งยืนของธุรกิจ
4. ไม่มีเชฟประจำหรือทีม R&D ทำให้พัฒนาสูตรเองยาก
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การนำเสนอเมนูใหม่ๆ และสร้างสรรค์อยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้า อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีเชฟประจำหรือทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) การคิดค้นสูตรใหม่ๆ ด้วยตัวเองจึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้ร้านเสียโอกาสในการสร้างความแตกต่างและตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
จากแนวคิด “KCG is Your Coffee Companion” KCG ตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจธุรกิจคาเฟ่ ผ่านสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ทั้ง 4 Insights ไม่ว่าด้านการแข่งขัน ด้านคุณภาพ ด้านต้นทุน ด้านความสะดวก และ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ด้วยวัตถุดิบหลากหลายและบริการจากทีมเชฟมืออาชีพ
ที่ช่วยทดลองสูตรและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด สะท้อนผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ บูธของ KCG ในงาน Thailand Coffee Fest 2025 ครั้งที่ผ่านมาดังนี้
● เครื่องดื่ม
สาธิตสูตรเมนูกาแฟและเครื่องดื่ม สุดพิเศษ ด้วยน้ำผลไม้เข้มข้น Sunquick รสใหม่ Strawberry Pink Guava
● วัตถุดิบเบเกอรี่
สาธิตสูตรการทำวาฟเฟิลและแพนเค้ก จากแป้งพรีมิกซ์แบรนด์ Imperial และโชว์เทคนิคการใช้ Whipping Cream ที่นำไปต่อยอดได้ทั้งเมนูขนมหวานและเครื่องดื่ม
● เบเกอรี่แช่แข็งพร้อมอบ
จัดชิมเมนูอบพร้อมทาน เช่น ทาร์ตไข่ โดนัท พาย จากแบรนด์ Premio เพื่อเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์
ความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการ
นอกจากนั้น KCG ในฐานะ Your Coffee Companion ได้ทำการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย แต่ยังคงคุณภาพระดับพรีเมียม ตอบช่วยแก้ปัญหาต่างๆของผู้ประกอบการคาเฟ่ ผ่าน 3 กลุ่มสินค้า ดังนี้
เครื่องดื่มคุณภาพสูง – Sunquick
น้ำผลไม้เข้มข้นระดับพรีเมียมจากเดนมาร์ก เหมาะกับคาเฟ่ที่ต้องการเมนูสดชื่น รสเข้ม ราคาคุ้มค่า ช่วยลดต้นทุน 1 ขวด
ผสมเครื่องดื่มได้ถึง 5 ลิตร ขวดหัวจุกเทสะดวก ลดการสูญเสีย ช่วยให้กระบวนการทำงานง่ายขึ้น และสามารถต่อยอดได้ทั้งเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และของหวาน
วัตถุดิบเบเกอรี่ – Imperial
แบรนด์วัตถุดิบเบเกอรี่ของคนไทย ที่อยู่คู่เชฟมืออาชีพมานาน รวมแป้งพรีมิกซ์, ฟิลลิ่ง, ท็อปปิ้ง, เนยคุณภาพ ต่อยอดเมนูง่าย ไม่ต้องคิดสูตรใหม่เอง ลดความยุ่งยากหลังบ้าน เหมาะสำหรับร้านขนาดเล็กที่ต้องการ ความเร็วและคุณภาพสม่ำเสมอ
เบเกอรี่แช่แข็งพร้อมอบ – Premio
เมนูเบเกอรี่แช่แข็งที่ทำจากเนยแท้ เช่น ครัวซองต์, พาย, ทาร์ตไข่ แค่เข้าเตาอบ ไม่ต้องเตรียมแป้ง ลดขั้นตอนและแรงงาน ลดปัญหา Food Waste จากการทำเบเกอรี่สดที่ต้องคาดการณ์ยอดขาย ให้รสชาติและหน้าตาระดับพรีเมียม เหมาะกับร้านที่ไม่มีเชฟประจำ
KCG เน้นย้ำเป้าหมายของการเป็น Coffee Companion ว่าไม่ใช่แค่การจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรี่
และเครื่องดื่มคุณภาพสูงเท่านั้น แต่คือการเดินเคียงข้างธุรกิจคาเฟ่ทุกระดับ ด้วยแนวทางที่ตอบโจทย์ทั้ง “ความต่าง-คุณภาพ-คุ้มค่า” ผ่านสินค้า นวัตกรรม และบริการที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ
สำหรับเจ้าของร้านกาแฟ ร้านขนม และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ต้องการคำปรึกษาด้านธุรกิจอาหาร ติดตามข่าวสาร หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/kcgcorporation https://www.kcgcorporation.com/th/contact-us/sales-inquiry-form www.kcgcorporation.com/
#KCG #KCGCorporation #KCGมีดีมากกว่าคุกกี้กล่องแดง #ThailandCoffeeFest2025
เกี่ยวกับบริษัท KCG
บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG คือ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ 2501 โดยคุณวิจัย วิภาวัฒนกุลและน้องชายคือ คุณตง ธีระนุสรณ์กิจ จากเดิมใช้ชื่อว่า “กิมจั๊วพาณิชย์” ซึ่งมีแบรนด์สินค้าที่อยู่คู่ประเทศไทยมานาน อาทิ ‘อิมพีเรียล’ คุกกี้กล่องแดง, ‘อลาวรี่’ แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนย และชีส ยอดขายอันดับ 1 ยาวนานถึง 8 ปีซ้อน, ‘ซันควิก’ น้ำผลไม้เข้มข้น จากธรรมชาติ ยอดขายในไทยกว่า 800,000 ขวด ต่อปี
ในช่วงแรกเริ่มดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ จนมาถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนธุรกิจเติบโต กลายเป็นทั้งผู้นำเข้า ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ทั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ในกลุ่มสินค้าประเภท เนยและชีส ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบอาหารและเบเกอรี รวมถึงธุรกิจผลิตภัณฑ์บิสกิตหรือขนมสําเร็จรูปต่าง ๆ อาทิ คุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่ สําเร็จรูป มากกว่า 2,000 สินค้าภายใต้บริษัทฯ
และบริษัทได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนและได้รับการอนุมัติเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมาย เป็นองค์กรที่สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้กับการรับประทานอาหาร ที่ทุกคนทำงานด้วยใจรักในศาสตร์และศิลปะของอาหาร และความเป็นมืออาชีพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น