#KCG #โชว์กำไรครึ่งปีแรก 221 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ดารา บันเทิง ข่าวธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีAi ข่าวธุรกิจ888 cyberainews chokweekly chokcyberai

Post Top Ad

กดติดตามได้ทาง https://www.ข่าวธุรกิจ888.cyberaitea.com

14 สิงหาคม 2568

#KCG #โชว์กำไรครึ่งปีแรก 221 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ

#KCG #โชว์กำไรครึ่งปีแรก 221 ล้านบาท  มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ 

 

#KCG ประกาศผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก กำไรสุทธิ 221.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.1% จากยอดขายโตแกร่ง และการบริหารต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง  

นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มียอดขาย 1,896.2 ล้านบาท เติบโต 12.3% และมีกำไรสุทธิ 99.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือน ปี 2568 บริษัทฯมียอดขาย 3,932.7 ล้านบาท เติบโต 13.2% และมีกำไรสุทธิ 221.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน แม้ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยอดขายเติบโตจากทุกช่องทางการจำหน่าย มั่นใจครึ่งปีหลังยังสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังราคาวัตถุดิบเริ่มทรงตัว และยังคงบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

หลังจากสหรัฐอเมริกาได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) สำหรับสินค้าจากประเทศไทยในอัตรา 19% ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศอื่นในภูมิภาค จึงคาดว่าประเทศไทยจึงจะยังสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ได้ ทั้งนี้ แม้ยังมีความไม่แน่นอนจากมาตรการ Reciprocal Tariffs แต่คาดว่าผลกระทบต่อบริษัทฯจะค่อนข้างจำกัด เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีการส่งออกสินค้าไปที่สหรัฐอเมริกา รวมถึงยังมีโอกาสในการนำเข้าวัตถุดิบ หรือสินค้าสำเร็จรูปจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น ในกรณีที่อัตราภาษีนำเข้าลดลงจนต้นทุนการนำเข้ามีความเหมาะสม ช่วยเพิ่มทางเลือกในการจัดหาวัตถุดิบและสินค้าที่สามารถแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น

บริษัทฯ ได้ยกระดับการพัฒนาด้านความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักขององค์กร และดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในระยะยาว ส่งผลให้บริษัทฯได้รับรางวัลสำคัญด้านความยั่งยืนจากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยรางวัลสำคัญด้านความยั่งยืน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ได้แก่ (1) ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2โดยสถาบันไทยพัฒน์ (2) ได้คะแนนการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 100 คะแนนเต็ม จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 (3) ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับรางวัล Superior Taste Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศด้านรสชาติที่ยอมรับในระดับสากลจากสถาบัน International Taste Institute Brussel ประเทศเบลเยี่ยม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพสินค้า รวมถึงความใส่ใจในสุขภาพและความพึงพอใจของผู้บริโภค และ (4) ได้รับการรับรอง HALAL BPJPH (Halal Indonesia) ซึ่งเป็นมาตรฐาน HALAL ที่ประเทศอินโดนีเซียบังคับใช้ สะท้อนถึงการดำเนินงานที่ใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร และเคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน
นายดำรงชัยสรุป

###

เกี่ยวกับบริษัท KCG

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG คือ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่พ.ศ 2501 โดยคุณวิจัย วิภาวัฒนกุลและน้องชายคือ คุณตง ธีระนุสรณ์กิจ จากเดิมใช้ชื่อว่า “กิมจั๊วพาณิชย์”  ซึ่งมีแบรนด์สินค้าที่อยู่คู่ประเทศไทยมานาน อาทิ ‘อิมพีเรียล’  คุกกี้กล่องแดง, ‘อลาวรี่’  แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนย และชีส ยอดขายอันดับ 1 ยาวนานถึง 8 ปีซ้อน, ‘ซันควิก’ น้ำผลไม้เข้มข้น จากธรรมชาติ ยอดขายในไทยกว่า 800,000 ขวด ต่อปีในช่วงแรกเริ่มดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ จนมาถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนธุรกิจเติบโต กลายเป็นทั้งผู้นำเข้า ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ทั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมในกลุ่มสินค้าประเภท เนยและชีส ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบอาหารและเบเกอรี รวมถึงธุรกิจผลิตภัณฑ์บิสกิตหรือขนมสําเร็จรูปต่าง ๆ อาทิ คุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่ สําเร็จรูป มากกว่า 2,000 สินค้าภายใต้บริษัทฯและบริษัทได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนและได้รับการอนุมัติเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมาย เป็นองค์กรที่สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้กับการรับประทานอาหาร ที่ทุกคนทำงานด้วยใจรักในศาสตร์และศิลปะของอาหาร และความเป็นมืออาชีพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad