“#แม้ไม่สวยแต่ช่วยโลกได้” 5 ไอเดียสุดครีเอทที่เปลี่ยนภาพธุรกิจ สู่การขาย “#คุณค่ารักษ์โลก” มากกว่าแค่สินค้า - CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

CyberAInews ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ธุรกิจเศรษฐกิจ แวดวงสังคม เทคโนโลยีAi

Post Top Ad

ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่ chokweekly

06 ตุลาคม 2568

“#แม้ไม่สวยแต่ช่วยโลกได้” 5 ไอเดียสุดครีเอทที่เปลี่ยนภาพธุรกิจ สู่การขาย “#คุณค่ารักษ์โลก” มากกว่าแค่สินค้า

“#แม้ไม่สวยแต่ช่วยโลกได้” 5 ไอเดียสุดครีเอทที่เปลี่ยนภาพธุรกิจ สู่การขาย “#คุณค่ารักษ์โลก” มากกว่าแค่สินค้า 

 

เมื่อพูดถึง ‘#ของเหลือใช้’ ภาพที่หลายคนมักนึกถึงคือ #เศษวัสดุที่ไร้ค่า #กองพลาสติก #ขวดเก่า #กล่องกระดาษที่ถูกวางทิ้งไว้ หรือ #เสื้อผ้าที่หมดอายุการใส่ไปแล้ว ทั้งหมดนี้ดู “Ugly” จนเราอยากกำจัดให้พ้นตา แต่หากลองเปลี่ยนมุมมอง วัสดุเหลือใช้เหล่านี้ก็สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ที่ “Pretty” ได้ นี่คือแก่นของการอัปไซเคิล (Upcycling) ที่ไม่เพียงหยิบของเหลือมาใช้ซ้ำ แต่ยังแปลงโฉมด้วยไอเดียและดีไซน์ให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม ตั้งแต่กระเป๋าที่ทำจากป้ายไวนิลเก่า เฟอร์นิเจอร์จากเศษไม้ ไปจนถึงแฟชั่นไอเท็มที่เล่าเรื่องความยั่งยืน ทุกชิ้นงานสะท้อนให้เห็นว่าของที่เคยถูกมองข้ามว่าน่าเกลียด ไร้ราคา สามารถกลับมาเป็นสินค้าที่เต็มไปด้วยความหมายและสุนทรียะ เพราะการรักษ์โลกวันนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ที่การลดขยะเพียงอย่างเดียว แต่คือการ “รีดีไซน์” วัสดุเหลือใช้ให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง จาก “Ugly” ให้กลับมา “Pretty” ได้อย่างแท้จริง

และนี่คือ 5 ไอเดียรักษ์โลกที่พิสูจน์แล้วว่า ‘ขยะ’ ไม่ได้ไร้ค่าเสมอไป หากมองใหม่และปรับใช้ด้วยไอเดียสร้างสรรค์ ก็สามารถกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้โลกใบนี้ได้จริง

 

·       ความไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์ Unpretty Fresh เทรนด์ใหม่ที่ทำให้ Ugly กลายเป็น Pretty ได้จริง

ในวันที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจความหมายเบื้องหลังสินค้า “ความไม่สมบูรณ์” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นความงามรูปแบบหนึ่ง เทรนด์ Imperfect Produce หรือ “ผักผลไม้ไม่สวย” ที่เคยถูกเมินเพียงเพราะรูปร่างไม่ตรงมาตรฐาน กำลังเป็นกระแสแรงในเกาหลีใต้ และสะท้อนว่าความ Ugly ที่ซ่อนอยู่ในรอยตำหนิเล็ก ๆ ก็สามารถคลี่คลายเป็น Pretty ได้ เมื่อมองผ่านเลนส์ของคุณค่าและความยั่งยืน ในครึ่งแรกของปี 2025 ยอดขายผักผลไม้ไม่สมบูรณ์พุ่งขึ้นกว่า 30–50% แอปเปิลจากคยองซังเหนือที่มีรอยตำหนิถึง 40% ของผลผลิต กลับกลายเป็นพระเอกในตลาด Lotte Home Shopping ขายแอปเปิลแบรนด์ “Areumari” ได้กว่า 350 ตันภายใน 6 เดือน สร้างรายได้กว่า 3 พันล้านวอน ส่วน Coupang ก็จับคู่แอปเปิลรอยด่างกับเนยถั่วภายใต้ชื่อเก๋ ๆ “Saving Private Apple” ที่ขายหมดภายในสัปดาห์เดียว ขณะที่ Shinsegae ห้างหรูยังหยิบคอนเซ็ปต์ “Unpretty Fresh” มาลดราคาผลไม้ไม่สวยสูงสุดถึง 70% และหมดเกลี้ยงทุกครั้งที่วางจำหน่าย ความ “ไม่สวย” จึงไม่ใช่ข้อบกพร่องอีกต่อไป แต่กลายเป็นเสน่ห์ใหม่ที่ผู้บริโภครุ่นใหม่เลือกยอมรับ พร้อมทั้งสร้างโอกาสให้เกษตรกรหาตลาดรองรับผลผลิตที่อาจเคยถูกทิ้งไป ขณะเดียวกันก็ช่วยผู้ค้าปลีกตอบโจทย์ ESG และลดขยะอาหารได้จริง เทรนด์นี้คือบทพิสูจน์ว่า “ความสวยงามขึ้นอยู่กับมุมมอง” และสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ ก็สามารถงดงามและสร้างคุณค่าต่อโลกได้ไม่แพ้สิ่งที่ดูไร้ที่ติ (ข้อมูลและรูปภาพจาก KoreaJoongAngDaily)











 

·       ชุบชีวิตไวนิลเก่า สู่กระเป๋าแฟชั่นรักษ์โลกไม่ซ้ำใคร Pretty Ugly Bag กระเป๋าไม่สวยแต่ช่วยโลกได้

แม้เนื้อผ้าไวนิลจากป้ายโฆษณาหน้าร้านท็อปส์ เดลี่ จะผ่านร้อนผ่านฝน จนเกิดรอยขีดข่วน สีซีดจาง และลวดลายที่ไม่สมบูรณ์ดังเดิม แต่เมื่อถูกเย็บร้อยขึ้นเป็นกระเป๋าแต่ละใบ กลับเผยเสน่ห์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลาและเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในวัสดุเดิม พร้อมความหมายอันยิ่งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทุกใบที่ออกจากร้าน ไม่ได้เป็นเพียงแฟชั่นแอ็กเซสซอรี แต่คือการต่ออายุให้วัสดุที่เคยถูกมองข้าม ช่วยลดปัญหาขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมามองคุณค่าในสิ่งเล็กน้อยรอบตัว นี่คืออีกหนึ่งไอเดียรักษ์โลกจาก  ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่ต่อยอดกลยุทธ์ ‘12 Missions to Sustainable Retail’ และคอนเซ็ปต์ “Small Acts Together” ซึ่งเชื่อว่าการกระทำเล็ก ๆ ของทุกคนสามารถรวมกันเป็นพลังที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ โดยการหยิบป้ายไวนิลหน้าร้านเก่ามาสร้างชีวิตใหม่ กลายเป็นกระเป๋าช้อปปิ้งไม่ซ้ำใครในชื่อ “Pretty Ugly Bag” ในเฟสแรกท็อปส์ตั้งเป้าผลิตกระเป๋าจากไวนิลใช้แล้วกว่า 20,400 ใบ เท่ากับการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2.87 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมสิทธิ์เปลี่ยนใบใหม่ฟรีตลอดชีวิต หากชำรุดจากการใช้งานจริง เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวที่ได้ทั้งความคุ้มค่าและการช่วยโลกไปพร้อมกัน โดย“Pretty Ugly Bag” วางจำหน่ายแล้วใน ท็อปส์ เดลี่ 10 สาขา ในกรุงเทพฯ และนนทบุรี ราคาเพียง 89 บาท

·       งดงามในความไม่สมบูรณ์ เมื่อ Imperfect Products กลายเป็นคุณค่าที่โลกต้องการ

บางครั้งความสมบูรณ์แบบก็ไม่ใช่คำตอบเดียวของคุณค่า ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดครัวเรือนจากแบรนด์ Silver Falls Sustainability Co (SFSC) ในรัฐโอเรกอน เช่น แชมพูบาร์ สบู่ ฟองน้ำ หรือบรรจุภัณฑ์ ที่อาจมีรอยแตก น้ำหนักเบาไม่ตรงตามเกณฑ์ หรือไม่สมบูรณ์แบบด้านรูปลักษณ์ แต่ยังคงคุณภาพเต็มเปี่ยม ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “Imperfect Products” พร้อมวางจำหน่ายในราคาพิเศษ ไฮไลต์คือชุด “Bulk Ends” ที่รวมชิ้นส่วนจากบาร์หลากหลาย บรรจุในถุงผ้าฝ้ายออร์แกนิก มีทั้งแชมพูบาร์ สบู่อาบน้ำ สบู่โกนหนวด และสบู่ล้างจาน ในหลากหลายกลิ่นอย่างซิตรัส มินต์ อบเชย และอโลเวรา ทั้งสูตรผสมและไม่ผสมข้าวโอ๊ต การเลือกใช้สินค้าแบบนี้ไม่เพียงช่วยลดการสูญเปล่า แต่ยังคืนชีวิตใหม่ให้ทรัพยากร ที่เคยถูกมองข้าม รอยแตก รอยเปื้อน และความไม่เท่ากัน จึงไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่คือเครื่องหมายของการใช้ประโยชน์สูงสุด และเป็นคำย้ำเตือนว่า ความไม่สมบูรณ์ก็สามารถสร้างประโยชน์ สร้างความหมาย และสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นได้ (ข้อมูลและรูปภาพจาก Bulk Ends and Imperfect Products!)

·       Wonky Products เทรนด์ที่พิสูจน์ว่าความงามแท้จริงอยู่เหนือมาตรฐานรูปลักษณ์

สินค้าที่มีตำหนิ รูปร่างไม่ตรงมาตรฐาน หรือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์ มักถูกมองข้ามหรือถูกผลักไสออกจากชั้นวางขาย ทั้งที่ภายในยังเต็มไปด้วยคุณภาพเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้รูปร่างแปลกตา ขนมและชาที่เลยวัน “ควรบริโภคก่อน” แต่ยังปลอดภัย เครื่องสำอางที่กล่องบุบ หรือของใช้ในบ้านที่มีร่องรอยเล็กน้อย สิ่งเหล่านี้คือเรื่องราวของ “วอนกี้โปรดักต์” (Wonky Products) จากสิ่งที่หลายคนเคยมองว่าไร้ค่า วันนี้กลับถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นการเลือกที่ทั้งชาญฉลาดและยั่งยืน การหันมาซื้อสินค้าประเภทนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่ยังช่วยกอบกู้ทรัพยากรที่อาจถูกทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรหันมาสนับสนุนผู้ค้าปลีกออนไลน์ Love Health, Hate Waste ที่นำเสนอสินค้าวอนกี้ในราคาลดสูงสุดถึง 90% ทำให้ของที่เคยถูกปฏิเสธได้โอกาสกลับมาสร้างประโยชน์ เทรนด์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดการกับของเหลือ แต่คือการเปลี่ยนทัศนคติ จากการมองหาความสมบูรณ์แบบ ไปสู่การยอมรับความ “ไม่สมบูรณ์ที่สมบูรณ์แบบ” และเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจเลือกซื้อ สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อทั้งชีวิตประจำวัน สิ่งแวดล้อม และโลกของเรา (ข้อมูลและรูปภาพจาก Reasonstobecheerful.world)

·       จาก Food Surplus สู่ Superfood: เมื่ออาหารส่วนเกินกลายเป็นขนมสุนัขสุดหรู

“อาหารส่วนเกิน” (Food Surplus) ที่เหลือจากการจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต อาจจะถูกมองว่าเป็นสินค้าที่กำลังจะถูกทิ้ง แต่นี่คือเรื่องราวการพลิกโฉมการนำอาหารส่วนเกินที่เหลือจากการจำหน่ายมา  สร้างมูลค่าอีกครั้งจากความร่วมมือระหว่าง ท็อปส์ และสตาร์ทอัพ ‘Jaikla’ (ใจกล้า) ที่เปลี่ยนภาพขยะอาหารสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สวยงามและเปี่ยมด้วยคุณค่า กระบวนการนี้คือต้นแบบของเศรษฐกิจหมุนเวียน 360 องศา โดยท็อปส์จะส่งมอบอาหารส่วนเกิน เช่น เบเกอรี่ ผัก และผลไม้ที่ยังคงคุณภาพดี ให้กับใจกล้า เพื่อนำไปใช้เพาะเลี้ยงโปรตีนจากแมลงในฟาร์มระบบปิดที่สะอาดปลอดภัย ก่อนจะแปรรูปเป็นขนมสุนัขเกรดพรีเมียม Human-grade ที่อุดมด้วย Superfood และพัฒนาสูตรโดยสัตวแพทย์ ความร่วมมือนี้ไม่เพียงช่วยลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์ แต่ยังเปลี่ยนของที่เคยถูกทิ้งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม สร้างสุขภาพที่ดีให้สัตว์เลี้ยง และยังเป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้เติบโต พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้แต่เศษอาหารที่ดูไร้ค่า ก็สามารถแปรรูปเป็นสิ่งสวยงามและสร้างคุณค่าให้โลกได้อย่างน่าทึ่ง

เมื่อทุกการช้อปคือการแชร์ความยั่งยืน

เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ ที่เราทำได้ในทุกวัน การเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงไม่ใช่เพียงแค่การช้อป แต่คือการส่งต่อคุณค่าที่จะช่วยรักษาโลกใบนี้ให้น่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป การตัดสินใจของผู้บริโภคในแต่ละครั้งจึงมีความหมายมากกว่าที่คิด เพราะไม่เพียงช่วยลดการใช้ทรัพยากรและมลภาวะ แต่ยังเป็นการร่วมผลักดันให้ธุรกิจและสังคมเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้จริง ยิ่งเราทุกคนร่วมมือกันมากเท่าไร โลกใบนี้ก็จะยิ่งมีพลังในการฟื้นฟูมากขึ้นเท่านั้น และนี่คือก้าวเล็ก ๆ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่ออนาคตที่ดีของเราทุกคน 

 #TOPS #PRETTYUGLYBAG

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad