#ทิพยประกันภัย สานต่อศาสตร์พระราชา ตามรอยรากเหง้าบรรพบุรุษบ้านเชียง เรียนรู้จากอดีต เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน - chokcyberai ข่าวธุรกิจ888

chokcyberai ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ธุรกิจเศรษฐกิจ แวดวงสังคม เทคโนโลยีAi

Post Top Ad

ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่ chokweekly

29 ตุลาคม 2568

#ทิพยประกันภัย สานต่อศาสตร์พระราชา ตามรอยรากเหง้าบรรพบุรุษบ้านเชียง เรียนรู้จากอดีต เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

 #ทิพยประกันภัย สานต่อศาสตร์พระราชา ตามรอยรากเหง้าบรรพบุรุษบ้านเชียง เรียนรู้จากอดีต เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง


บริษัท #ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมูลนิธิธรรมดี และภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ครั้งที่ 57 ภายใต้แนวคิด"ตามรอยฯ รากเหง้าบรรพบุรุษ สืบสานหัตถกรรม มรดกโลกทางวัฒนธรรม” ณ จังหวัดอุดรธานี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชาติ ผ่านแหล่งอารยธรรมบ้านเชียง มรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การจัดโครงการครั้งนี้สะท้อนแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมควบคู่กับการพัฒนาด้านอื่นๆ ของประเทศ เพื่อให้ความเจริญก้าวหน้าของประเทศตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งภูมิปัญญา ความพอเพียง และอัตลักษณ์ของชาติไทย พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนบ้านเชียงเมื่อปี พ.ศ. 2515 เพื่อทอดพระเนตรหลุมขุดค้นทางโบราณคดีด้วยพระองค์เอง และจากการเสด็จครั้งนั้น ได้นำไปสู่การจัดตั้ง “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง” ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำแหล่งแห่งแรกของประเทศไทย และในปี พ.ศ. 2535 แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกทางวัฒนธรรม” จากองค์การยูเนสโก ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงรากฐานอารยธรรมของชนชาติไทยและภูมิปัญญาแห่งการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน

 

3 แม่เฒ่าเรือนไทพวน

คุณวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการครั้งนี้เป็นการเดินทางย้อนรอยสู่อดีต เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของรากเหง้าทางวัฒนธรรม เพราะการรู้จักต้นกำเนิดของตนเองคือรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน เมื่อเราเข้าใจราก เราจะเติบโตได้อย่างมั่นคง การอนุรักษ์วัฒนธรรมไม่ใช่เพียงการรักษาความทรงจำ แต่คือการรักษาความเป็นไทยและส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง”

คณะผู้เข้าร่วมโครงการได้เริ่มต้นการเรียนรู้ที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง” เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของชุมชนโบราณแห่งนี้ ซึ่งมีอายุย้อนไปกว่า 5,000 ปี ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุจำนวนมาก ทั้งเครื่องปั้นดินเผาลวดลายงดงาม เครื่องมือหิน เครื่องประดับสำริด และหลักฐานการฝังศพที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของสังคมเกษตรกรรมยุคแรกเริ่ม ผู้เข้าร่วมยังได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเห็นว่าการอนุรักษ์รากเหง้าทางวัฒนธรรมคือการปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความพอเพียงและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย อันเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว


กิจกรรมลงสีไหบ้านเชียง

จักสานบ้านดง

นักเรียนโรงเรียนบ้านเชียง ประชาเชียงเชิด

บอร์ดเกม


พิพิธภัณฑสถานแหน่งชาติ บ้านเชียง 

รำชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าอุดร

เรือนไทพวน

ลงสีไหบ้านเชียง

หลุมขุดค้นวันโพธิ์ศรีใน

 

จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยัง “หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เปิดให้ชมร่องรอยจริงของแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีบ้านเชียง ผู้เข้าร่วมได้เห็นชั้นดินโบราณที่ยังคงปรากฏเครื่องปั้นดินเผาและโครงกระดูกมนุษย์โบราณอยู่ในตำแหน่งเดิม ทำให้ได้ตระหนักถึงความเป็นมาของอารยธรรมไทยที่มีความลึกซึ้งและต่อเนื่องยาวนาน ทั้งยังสะท้อนให้เห็นแนวคิดของศาสตร์พระราชาเรื่อง “การเรียนรู้จากของจริง” เพื่อเข้าใจธรรมชาติและมนุษย์อย่างถ่องแท้

ผู้ร่วมโครงการยังได้มีส่วนในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านกิจกรรม Workshop สองรูปแบบ ได้แก่ “การทำเครื่องปั้นดินเผาและเพนต์ลวดลาย” ซึ่งเป็นศิลปหัตถกรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดอุดรธานี และ “การจักสานบ้านดงเย็น” งานหัตถศิลป์พื้นบ้านที่ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่และหวาย มาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและงานศิลป์ที่สะท้อนวิถีชีวิตเรียบง่ายและพอเพียง กิจกรรมทั้งสองนอกจากเป็นการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ยังเป็นสื่อในการเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ให้เข้าใจคุณค่าของภูมิปัญญาดั้งเดิมในบริบทของเศรษฐกิจสร้างสรรค์

นอกจากกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมแล้ว โครงการยังมีภารกิจจิตอาสาเพื่อสังคม โดยคณะได้จัดกิจกรรม “อมรินทร์อาสา อ่านพลิกชีวิต” มอบหนังสือและทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนบ้านเชียง (ประชาเชียงเชิด) เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่เยาวชน พร้อมทั้งร่วมทำบุญ “ปล่อยปลาไถ่ชีวิตเป็นมหาทาน” ณ สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศธรรมชาติในพื้นที่

ทางโครงการยังจัดให้มีการสัมมนาและเวิร์คช็อปเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแบ่งปันความรู้ อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี และอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ผู้คิดค้นนวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 หรือ Interactive Board Game หนึ่งเดียวในโลก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2030

โครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย มูลนิธิธรรมดี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี

ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งต่อไปสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่เฟซบุ๊ก: ตามรอยพระราชา-The King's Journey โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับประกาศนียบัตรซึ่งสามารถนาไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจากคุรุสภาได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad