#อุตสาหกรรมอัญมณีไทย ผงาด #GIT ดัน #SMEs สู่มาตรฐานธรรมาภิบาล กว่า 200 ราย ตอกย้ำ #JewelryHub แห่งเอเชีย สร้างแต้มต่อการแข่งขันระยะยาว
#สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ #GIT ประกาศความสำเร็จในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการ SMEs ไทยกว่า 292 ราย เข้าสู่ระบบ มาตรฐานธรรมาภิบาล ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น GIT Standard หรือ Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เรื่อง จริยธรรม แรงงาน สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า สะท้อนถึงการตื่นตัวของภาคธุรกิจไทยที่พร้อมยกระดับศักยภาพและปรับตัวสู่แนวโน้มใหม่ของตลาดโลก อันจะนำไปสู่การก้าวขึ้นเป็น “Jewelry Hub” หรือศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ยั่งยืนของภูมิภาคได้อย่างเป็นรูปธรรม
ธรรมาภิบาล: กลไกยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่มาตรฐานโลก
1ปัจจุบัน อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 1โดยในปี 2567 เป็นสินค้าส่งออกมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของไทย สร้างรายได้จากการส่งออกถึง 640,000 ล้านบาท และโครงสร้างของอุตสาหกรรมนี้มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นหัวใจหลัก คิดเป็นสัดส่วนถึง 97% จากผู้ประกอบการทั้งหมดกว่า 13,595 รายทั่วประเทศ
ภายใต้บริบทโลกที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใส สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น GIT จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีไทยด้วยการวาง “ธรรมาภิบาล” เป็นหัวใจของกลยุทธ์ พร้อมผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานที่ตรวจสอบได้จริงทั้งในระดับประเทศ (GIT Standard) และระดับสากล (Responsible Jewellery Council: RJC) โดยมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจผ่านโครงการอบรมที่ครอบคลุมมิติต่าง ๆ ของธรรมาภิบาลในห่วงโซ่การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ
ในปี 2568 ที่ผ่านมา GIT สามารถดำเนินการอบรมผู้ประกอบการได้ถึง 292 ราย สูงกว่าเป้าหมายเดิมอย่างมีนัยสำคัญ โดยครอบคลุมหลักสูตรสำคัญ 4 รายการ ได้แก่ CIBJO x GIT Course on Ethical & Sustainable Practices, RJC COP: Requirement & Workshop, Self–Assessment Workbook COP and Workshop และการอบรมหลักสูตรผู้ตรวจติดตามภายในมาตรฐานธรรมาภิบาล (Internal Auditor Training) เพื่อปูรากฐานความเข้าใจและความพร้อมในการยกระดับธุรกิจของไทยให้สามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายการผลิตระดับโลกได้อย่างยั่งยืนและโปร่งใส
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบัน GIT กล่าวว่า “ตลอดปี 2568 GIT ดำเนินโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่มาตรฐาน RJC ของ GIT ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ตอบโจทย์นโยบาย ESG และสอดคล้องกับทิศทางการค้าระหว่างประเทศที่เริ่มใช้หลักธรรมาภิบาลและสิ่งแวดล้อม เราไม่เพียงสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลให้กับผู้ประกอบการกว่า 200 ราย แต่ยังให้คำปรึกษาแบบรายบริษัทเชิงลึกกว่า 100 ราย ครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้งด้านการประเมินช่องว่าง (Gap Analysis), การจัดการความเสี่ยง, ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) และแนวปฏิบัติทางจริยธรรมในห่วงโซ่อุปทาน โดยในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการถึง 40 รายที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐาน RJC สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการที่ต้องการเติบโตสู่มาตรฐานโลกอย่างยั่งยืน”
บรรทัดฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอัญมณีโลก
2สำหรับ Responsible Jewellery Council (RJC) ถือเป็นองค์กรระดับสากลที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานธรรมาภิบาลที่มีอิทธิพลอย่างสูงในอุตสาหกรรมเครื่องประดับระดับโลก ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 2,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการจาก 11 สมาคมการค้าชั้นนำ โดยประเทศไทยเองมีผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิก RJC มากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก อินเดีย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส โดยมีสมาชิกมากกว่า 135 ราย
โดย 107 รายได้รับการรับรองแล้วเรียบร้อย และอีก 28 รายอยู่ระหว่างดำเนินการ แสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวของธุรกิจไทยในการยกระดับมาตรฐานการผลิตและการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวทางสากลที่เน้นความโปร่งใส จริยธรรม และความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ผู้บริโภคและพันธมิตรทางการค้าในตลาดโลกให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
ความสำเร็จคู่มาตรฐานที่พิสูจน์ได้
โดย คุณกีรดิต หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มทีเอส รีไฟเนอรี่ แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (MTSRM9) ผู้ประกอบการค้าทองคำครบวงจร หนึ่งในต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการได้รับ GIT Standard และ RJC Standard ยืนยันว่า “เพราะธรรมาภิบาลคือ DNA ของเราเป็นทุนเดิม การได้ร่วมทำงานกับ GIT ไม่เพียงทำให้เราบรรลุมาตรฐาน GIT แล้ว ยังต่อยอดไปสู่การรับรองระดับสากลอย่าง RJC ได้อย่างราบรื่น หลังได้รับการรับรองทั้งสองมาตรฐาน ผลลัพธ์ก็ชัดเจนมาก จากที่เคยเน้นค้าขายกับสวิตเซอร์แลนด์เป็นหลัก ตอนนี้เราสามารถขยายไปยังตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ ธนาคารค้าทองคำระดับโลกต่างให้ความไว้วางใจ ทำให้เรากลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในไทย เราจึงเห็นว่าการลงทุนกับธรรมาภิบาลคือกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด และการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง"
ธรรมาภิบาล – ไม่ใช่แค่เครื่องมือส่งออก แต่คือโครงสร้างอนาคต
GIT ยังเตรียมขยายแผนพัฒนาเชิงระบบต่อเนื่องถึงปี 2569 โดยร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและพันธมิตรอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันการใช้มาตรฐานธรรมาภิบาลเป็นบรรทัดฐานใหม่ของธุรกิจอัญมณีไทย พร้อมเตรียมพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ และการสื่อสารความโปร่งใสกับผู้บริโภคในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย ช่วยให้ผู้ประกอบการทราบแหล่งที่มา (origin) รวมถึงมาตรฐานด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน
“GIT มุ่งมั่นวางรากฐาน ‘ธรรมาภิบาล’ ให้เป็นมาตรฐานกลางของวงการอัญมณีไทย ไม่ใช่แค่เพื่อการส่งออก แต่เพื่อสร้างระบบที่ยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ การอบรมและบ่มเพาะที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้ SMEs ไทยสามารถยืนหยัดในห่วงโซ่การผลิตระดับโลกได้อย่างมั่นใจ” คุณสุเมธกล่าวสรุป
1https://mocsc.moc.go.th/th/content/category/detail/id/3623/iid/90915
2https://www.responsiblejewellery.com/wp-content/uploads/RJC_APR_Report_2025-1.pdf?utm_source



.jpg)






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น