#เซ็นทรัลรีเทล โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 68 กวาดรายได้รวม 194,440 ล้านบาท พร้อมสปีดอัพกลยุทธ์ ‘New Heights, Next Growth’ #ปลุกค้าปลีกค้าส่งในไทยและเวียดนาม - chokcyberai ข่าวธุรกิจ888

chokcyberai ข่าวธุรกิจ888

ข่าวเด่น ธุรกิจเศรษฐกิจ แวดวงสังคม เทคโนโลยีAi

Post Top Ad

ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่ chokweekly

12 พฤศจิกายน 2568

#เซ็นทรัลรีเทล โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 68 กวาดรายได้รวม 194,440 ล้านบาท พร้อมสปีดอัพกลยุทธ์ ‘New Heights, Next Growth’ #ปลุกค้าปลีกค้าส่งในไทยและเวียดนาม

 #เซ็นทรัลรีเทล โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 68 กวาดรายได้รวม 194,440 ล้านบาท  พร้อมสปีดอัพกลยุทธ์ ‘New Heights, Next Growth’ #ปลุกค้าปลีกค้าส่งในไทยและเวียดนาม

 

กรุงเทพฯ 12 พฤศจิกายน 2568 นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ยังอยู่ในระยะชะลอตัวและเผชิญกับปัจจัยท้าทายจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เซ็นทรัล รีเทล ยังคงเดินหน้าธุรกิจอย่างมั่นคงตามแผนที่วางไว้ ภายใต้กลยุทธ์ ‘New Heights, Next Growth’ โดยสามารถสร้างรายได้รวมใน 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 194,440ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% และมีกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุง 5,112 ล้านบาท ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมทั้งปิดไตรมาส 3 ที่รายได้รวม 62,516 ล้านบาท ลดลง 0.9% และมีกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุง 1,299 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

สำหรับในไตรมาส 3 ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การเปิดศูนย์การค้า GO! ในเวียดนามเพิ่ม 2 สาขา ได้แก่ สาขาฮึงเอียน(Hung Yen) และเอียนบาย(Yen Bai) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวเวียดนาม ด้วยยอดเช่าพื้นที่มากกว่า 90% ซึ่งเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามที่เติบโตสูงถึง 8.23% ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในประเทศไทย เซ็นทรัล รีเทล ยังคงมุ่งขยายสาขาห้างร้าน อาทิท็อปส์, โก โฮลเซลล์, ออโต้วันรวมถึงเสริมพอร์ตแบรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ เช่น Aveda แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชั้นนำระดับโลก ที่ CMG ได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ห้างร้านต่าง ๆ ในเครือ ยังมีการจัดกิจกรรมและแคมเปญทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การช้อปปิ้งให้แก่ลูกค้า 









 

ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 เซ็นทรัล รีเทล คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจปลายปีจะปรับตัวดีขึ้นจากทั้งมาตรการภาครัฐที่เข้ามาสนับสนุน เช่น โครงการเที่ยวดีมีคืน และคนละครึ่งพลัส รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ของเซ็นทรัล รีเทล และแบรนด์ในเครือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มทราฟฟิก สร้างบรรยากาศการจับจ่าย และกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซัน ทั้งนี้ภาพรวมตลอดปี 2568 เซ็นทรัล รีเทล สามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งในส่วนห้างร้านที่สามารถเปิดสาขาใหม่ได้ครบตามเป้า พร้อมเดินหน้าที่จะสร้างการเติบโตในตลาดศักยภาพไทยและเวียดนามต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถปิดปีด้วยจำนวนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันรวม 76 สาขา, ท็อปส์มากกว่า 700  สาขา, ไทวัสดุ 88 สาขา, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ 28 สาขา, ศูนย์การค้า GO! 44 สาขาและซูเปอร์มาร์เก็ต go! 16 สาขาในเวียดนาม พร้อมกันนี้ยังมีแผนที่จะรีโนเวทห้างร้านต่าง ๆ เสร็จสิ้นในช่วงสิ้นปีนี้ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า และสาขาแจ้งวัฒนะ รวมถึงศูนย์การค้า GO! สาขาทังลอง (Thang Long) และดงนาย(Dong Nai) ในเวียดนาม ที่พร้อมเผยโฉมใหม่เพื่อต้อนรับลูกค้าทุกคน นอกจากนี้ในด้านธุรกิจ New Growth Engine ของเซ็นทรัล รีเทล ก็ได้ขยายสาขาเพิ่มเติมในทำเลศักยภาพทั่วไทย โดยคาดว่าปิดปี 2568 จะมีโก โฮลเซลล์ทั้งสิ้น 14 สาขา และออโต้วัน มากกว่า 50 สาขา ขณะเดียวกันในช่องทางออนไลน์ที่มีการพัฒนาแพลตฟอร์มมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ตัวเลขยอดขายจากCentral App ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 ด้วยอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง โดยเราเชื่อมั่นว่าภายใต้กลยุทธ์ ‘New Heights, Next Growth’ ผนวกกับการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพของเซ็นทรัล รีเทล จะช่วยผลักดันและต่อยอดการเติบโตขององค์กรให้ก้าวข้ามทุกความท้าทายสู่การเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป”นายปเนต กล่าวปิดท้าย

###

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “เซ็นทรัล รีเทล”) เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก รวมทั้งธุรกิจค้าส่ง สินค้าหลากหลายประเภท ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-Format Multi-Category Omnichannel Retail และ Wholesale Platform) ในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,797 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร  ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel  โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค วัตถุดิบอาหาร รวมถึงสินค้าและบริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ  เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์ เดลี่  ท็อปส์ แคร์ และโก โฮลเซลล์ ในประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ บิ๊กซี / โก (GO!) ท็อปส์ มาร์เก็ต  มินิ โก (go!) และ ลานชี มาร์ท (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ  ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม  เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียน คิม (3) กลุ่มแฟชั่น มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ มุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 26 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลัก ๆ ทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ad