กรุงเทพฯ 10 กรกฎาคม 2567 – #ไมเนอร์ฟู้ด ตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการร้านอาหารของเอเชีย ที่พร้อมมุ่งสู่การเป็นองค์กรระดับโลก ล่าสุดคว้ารางวัล "#องค์กรสุดยอดการตลาดแห่งเอเชีย ประเภท Marketing 3.0" จากสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (The Asia Marketing Federation หรือ AMF) ด้วยกลยุทธ์ นโยบาย และวิสัยทัศน์ในการส่งมอบประสบการณ์พิเศษ คู่ไปกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่ผู้บริโภค รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหาร พร้อมการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการสื่อสารกับลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคนอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ครอบคลุมอย่างแท้จริง
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหาร เป็นหนึ่งในเซ็กเตอร์ใหญ่ของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 400,000 ล้านบาท ทั้งยังเป็นธุรกิจที่อยู่ในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ซึ่งไมเนอร์ ฟู้ด ตั้งเป้าเป็นองค์กรระดับโลก ซึ่งในปัจจุบันเราถือเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ด้วยจำนวนร้านที่มีมากกว่า 2,600 แห่ง ใน 24 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ในเครือ ไม่ว่าจะเป็น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า, พูเลท์, บอนชอน, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน และเบอร์เกอร์ คิง ฯลฯ เป็นต้น โดยมีวิสัยทัศน์และพันธกิจในการดำเนินงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมในทุกด้าน พร้อมสร้างความพึงพอใจสูงสุด ตลอดจนสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับผู้บริโภคและทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม
“ปัจจุบันด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไมเนอร์ ฟู้ด ต้องปรับตัวรวมถึงมองหากลยุทธ์ใหม่ ๆ อย่างครอบคลุมเพี่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมายสิ่งแรกที่ไมเนอร์ฟู้ดให้ความสำคัญที่สุดคือประสบการณ์ของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันนิยมมองหาความสะดวกสบายในการใช้บริการขึ้น ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องมีการตอบสนองต่อพฤติกรรมดังกล่าว เช่น การการันตีความเร็วในการจัดส่งที่เร็วขึ้น มีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายแบบ Omnichannel เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงต้องมีการสร้างประสบการณ์พิเศษใหม่ ๆ เช่น การทำร้านรูปแบบ pop up ที่ให้บริการในเมนูพิเศษ เป็นต้น สิ่งสำคัญส่วนต่อมาคือการสร้างความชัดเจนในแต่ละแบรนด์ ที่จะต้องมีการใช้ข้อมูลจากผู้บริโภคนำมาพัฒนาและนำเสนอ ให้ตรงกับความต้องการ เช่น การปรับแบรนด์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น การปรับบรรยากาศร้านและทำร้านหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆตลอดจนการนำเสนอเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับสังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนการพัฒนาทักษะบุคลากรและพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภค เป็นต้น
จากการดำเนินงานที่มุ่งมั่นทั้งหมดข้างต้น ส่งผลให้ไมเนอร์ ฟู้ด สามารถคว้ารางวัล "สุดยอดการตลาด ประเภท Marketing 3.0" จากการเข้าร่วมแข่งขันในเวที Asia Marketing Excellence Award 2024 จากสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย ซึ่งเป็นการยกย่ององค์กรที่มีกลยุทธ์การตลาดที่เป็นเลิศในทุกมิติ โดยคำนึงถึงผลลัพธ์เชิงบวกที่มีต่อผู้บริโภค ชุมชนและสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งรางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์และช่วยตอกย้ำความเป็นองค์ระดับโลก ของไมเนอร์ ฟู้ดได้” นายธันยเชษฐ์ กล่าว
ด้าน นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนของ ไมเนอร์ ฟู้ด ที่ได้นำเสนอนโยบายและกลยุทธ์บนเวทีการแข่งขัน Asia Marketing Excellence Award 2024 เป็นการเน้นย้ำถึงการดำเนินธุรกิจของไมเนอร์ ฟู้ดที่มีความเป็น responsible marketing-preneur หรือองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กับการมี DNA ของความเป็นผู้ประกอบการ ผ่านการดำเนินงานโดยให้ความสำคัญใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านลูกค้า (Customer-focused entrepreneurialspirit) โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ที่มีการปรับเพิ่มช่องทางการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนและสามารถเข้าถึงได้ เช่น การทำให้เมนูพิซซ่าเข้าถึงเด็กในโรงเรียนบริเวณชายขอบประเทศ ผ่านโครงการส่งเสริมรักการอ่าน ซึ่งมีเด็กที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 2 ล้านคน การส่งมอบอาหารให้กับทีมแพทย์ในโรงพยาบาล รวมถึงสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ในช่วงที่เกิดระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นต้น
สำหรับด้านที่สองคือการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมและสิ่งแวดล้อม (Socio-Economy Environmental Impact) โดยไมเนอร์ ฟู้ด มีการตั้งเป้าที่ชัดเจน เช่น ลดการใช้พลาสติก 75% จากปี 2018 ซึ่งเป็นปีที่มีการใช้พลาสติกสูงรวมถึงการลดคาร์บอน ขณะที่แบรนด์ซิซซ์เล่อร์มีการส่งเสริมการใช้ข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรจังหวัดอำนาจเจริญ รวมถึงส่งเสริมการใช้พืชผักสลัดที่มาจากชุมชนที่ไม่ทำลายป่าไม้ สำหรับแบรนด์สเวนเซ่นส์มีการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมะม่วงพันธุ์อกร่องทอง เพื่อนำมาพัฒนาเป็นไอศกรีมอกร่องทอง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ให้รสชาติดีแต่ไม่เป็นที่นิยมปลูกเนื่องจากมีราคาต้นทุนสูง
รวมถึงการพัฒนาเมนูกาแฟในรูปแบบ Edible cup แก้วกาแฟจากแป้งโฮลวีท ที่สามารถรับประทานได้ ของเดอะ คอฟฟี่ คลับ ที่ช่วยลดการใช้พลาสติกได้ดี รวมถึงการเลือกใช้ไข่ไก่จากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขัง (Cage free Eggs) เป็นต้น
และด้านที่สาม คือการส่งเสริมศักยภาพบุคคลากร (People Potential) โดยไมเนอร์ ฟู้ด มีการสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมทั้งด้านอายุและเพศให้พนักงานทุกคน มีโอกาสเติบโตเป็นหัวหน้างานและผู้บริหาร รวมถึงเริ่มมีการรับพนักงานที่มีอายุเกิน 60 ปีเข้าร่วมในองค์กร โดยมีการสนับสนุนทักษะความสามารถ เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ร่วมสร้างการเติบโต และความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งจากการดำเนินงานดังกล่าว จึงเล็งเห็นว่า ไมเนอร์ ฟู้ด เหมาะที่จะเข้าร่วมการแข่งขันและนำเสนอผลงานในเวทีนี้ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นผลประกอบการ แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดรางวัลสุดยอดการตลาด Marketing 3.0 ที่มุ่งสร้างคุณค่าระหว่างธุรกิจ ผู้บริโภค และสังคมโดยรวม
ขณะที่ ดร.สมชาติ วิศิษฐชัยชาญ อุปนายกและประธานฝ่ายออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้และนวัตกรรมการตลาด สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (The Asia Marketing Federation หรือ AMF) มีสมาชิกมากกว่า 18 ประเทศในเอเชีย โดยมีนโยบายหลักในการมุ่งมั่นยกระดับวิชาชีพทางการตลาด ทั้งในระดับนักการตลาดบุคคลและองค์กร ซึ่งทุกปีจะมีการประกวดที่เรียกว่าสุดยอดการตลาดแห่งเอเชีย หรือ Asia Marketing Excellence Award ที่จะมอบรางวัลให้กับองค์กรและบุคคล
ที่มีผลงานด้านการตลาดโดดเด่น โดยในระดับองค์กรแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลสุดยอดการตลาดแห่งเอเชีย ประเภท Marketing 3.0 และประเภท Marketing Company of the Year ซึ่งสมาคมจะคัดเลือกเพียง 1 องค์กรเพื่อเข้าร่วมประกวด โดยในปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับชัยชนะในระดับองค์กรทั้ง 2 ประเภท ซึ่ง บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท Marketing 3.0
จากความสำเร็จ ของไมเนอร์ ฟู้ด ที่มีความแข็งแกร่งตรงตามเกณฑ์การพิจารณาของสมาคมฯ ทั้งด้านผลประกอบการที่เติบโตแบบดับเบิลดิจิต 3 ปีติดต่อกัน การมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจน มีการใช้การตลาดเป็นส่วนขับเคลื่อนองค์กรรวมถึงใช้สร้างนวัตกรรมและสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในสังคมและโลก สอดคล้องกับหลักการของรางวัลสุดยอดการตลาด Marketing 3.0 ซึ่งการที่องค์กรในประเทศไทยได้รับรางวัลดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของวงการธุรกิจ และการตลาดไทยในระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการตลาดที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่น ๆ พัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมและสังคมในระยะยาว ทำให้รางวัลนี้มีความหมายมากกว่าการยกย่องความสำเร็จขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นการขับเคลื่อนมาตรฐานการตลาดของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล”
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์ www.minorfood.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น